วันที่ 7 มิ.ย. 2566 ที่พรรคเพื่อไทย มีการประชุมร่วมกันของ 8 หัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาล สืบเนื่องการประชุมของคณะกรรมการประสานงานในช่วงเปลี่ยนผ่าน เมื่อวานนี้ (6 มิ.ย.) โดยมี พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล เป็นประธานในการประชุม ในฐานะแกนนำพรรคร่วมรัฐบาล และได้มีแถลงผลการประชุมในช่วงเวลา 12.20 น.

พิธา เผยว่า สำหรับผลการประชุมครั้งนี้ หัวหน้าพรรคล้วนเห็นตรงกันว่า เป็นเรื่องน่ายินดีที่ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จะเร่งรับรอง ส.ส.ให้เร็วที่สุด 95% หากเป็นไปตามที่ประธาน กกต. เคยให้สัมภาษณ์ไว้ กำหนดการต่างๆ ทั้งการเปิดประชุมสภาและการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีอาจจะเร็วขึ้นมา 2-3 สัปดาห์ ซึ่งหัวหน้าพรรคแต่ละพรรคก็ต้องเตรียมการให้พร้อม

การประชุมครั้งต่อไปคือวันที่ 20 มิ.ย. ที่พรรคไทยสร้างไทย และได้ขอให้ประสานไปยังคณะกรรมการเปลี่ยนผ่านฯ และคณะทำงาน เพื่อตั้งคณะทำงานเพิ่มเติมอีก 2 ชุด คือ

1) คณะทำงานเกี่ยวกับการปฏิรูปประมง

2) คณะทำงานดูแลการเปลี่ยนแปลงของงบประมาณ

พิธา ได้ชี้แจงเพิ่มเติมต่อกรณีมีผู้ร้องต่อ กกต. ว่าการใช้ภาพค้อนเคียวในการประชาสัมพันธ์ของพรรคก้าวไกล ถือว่าเข้าข่ายปฏิปักษ์ต่อการปกครองหรือไม่ พิธา กล่าวว่า คำชี้แจงเป็นไปตามที่พรรคก้าวไกลเผยแพร่ไว้เมื่อคืนนี้ เพราะ ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อของพรรคก้าวไกล ประกอบไปด้วยชนชั้นเกษตรกรและแรงงาน ซึ่งจำเป็นต้องใช้อุปกรณ์เหล่านี้ เป็นการแสดงออกถึงเครื่องมือทำมาหากิน ไม่มีอะไรมากกว่านั้น

สำหรับประเด็นความเชื่อมั่นในทางเศรษฐกิจ พิธา กล่าวว่า ต้องมีโอกาสพูดคุยกับทุนเก่าและทำธุรกิจอีกหลายคน ว่านโยบายทางเศรษฐกิจพวกเราทั้ง 8 พรรค เมื่อสร้างความเจริญเติบโตและลดความเหลื่อมล้ำไปด้วย เศรษฐกิจหัวโตที่เคยอยู่ในกรุงเทพฯ อย่างเดียว เมื่อกระจายออกไป จะทำให้เข้มแข็งจากฐานราก และเป็นสถานการณ์ที่ทุกฝ่ายได้ผลประโยชน์ร่วมกัน

ทั้งนี้ การอนุมานว่าจะเป็นอย่างประเทศยูเครนนั้นถือว่าผิดบริบท จึงไม่มีความจำเป็นต้องอนุมานเช่นนั้น พรรคร่วมรัฐบาลจะเดินหน้าสร้างความเชื่อมั่นต่อไป ว่าทุกฝ่ายจะได้รับผลประโยชน์

ส่วนกรณี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ยังไม่ได้ติดต่อมาแสดงความยินดี ซึ่งเข้าใจว่าธรรมเนียมปฏิบัติของตนและ พล.อ.ประยุทธ์ คงจะแตกต่างกัน แต่เมื่อผลการเลือกตั้งออกมาแล้ว พรรคร่วมต่างก็โทรพูดคุยกันเพื่อแสดงความยินดี 

"วันหนึ่งหากผมเป็นนายกรัฐมนตรีและหากแพ้การเลือกตั้งในครั้งหน้า ผมก็ต้องโทรไปหาผู้ชนะเพื่อยอมแพ้ และให้การเปลี่ยนแปลงของรัฐบาลไร้รอยต่อมากที่สุด โดยเอาประชาชนเป็นที่ตั้ง" พิธา กล่าว