พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ​กล่าวถึงการดูแลผู้ที่ได้รับผลกระทบจากดินถล่มที่ อ.บ่อเกลือ จ.น่าน ว่า พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ได้ลงไปดูพื้นที่ดังกล่าวแล้ว และตนเองก็ได้ติดตามความก้าวหน้ามาโดยตลอด แต่ปัญหาจะทำอย่างไรให้ประชาชนที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงได้รับความปลอดภัย เบื้องต้นได้กำชับต้องชี้แจงและทำความเข้าใจกับประชาชน เพราะการแจ้งเตือนข่าวเพียงอย่างเดียวไม่เพียงพอ ดังนั้นจึงเป็นหน้าที่ของทุกหน่วยงานในพื้นที่ โดยเฉพาะองค์การปกครองส่วนท้องถิ่น กำนัน และผู้ใหญ่บ้าน หากมีฝนตกเกิดขึ้นในพื้นที่ ซึ่งในพื้นที่อ.บ่อเกลือ จ.น่าน พบว่าตลอด 6 วันที่ผ่านมามีฝนตกทุกวัน ส่งผลให้มีปริมาณน้ำสูงถึง 103 มิลลิเมตร และประชาชนบางส่วนยังคงอยู่อาศัยในพื้นที่อยู่ ทั้งนี้ ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี หรือ ครม. พิจารณาว่า ต้องหาวิธีการเพื่อขยับขยายหลายครอบครัวกว่า 60 ครอบครัวออกมาพื้นที่เสี่ยงที่เป็นพื้นที่ป่ารุกน้ำ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่สามารถอยู่อาศัยได้เป็นการชั่วคราว เพื่อไปอยู่ในพื้นที่ที่ปลอดภัยเป็นการเร่งด่วน โดยทั้งหมดต้องนำเข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมการจัดการที่ดินแห่งชาติต่อไป 

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขณะนี้โลกมีการเปลี่ยนแปลง ส่งผลให้เกิดฝนตกมากเกินกว่าที่จะสามารถรองรับได้ และทำให้อุทกภัยในหลายพื้นที่ ซึ่งในพื้นที่จ.น่านส่วนใหญ่เป็นพื้นที่ป่าเขาที่มีดินและดินผสมกันอยู่ และมีป่าที่อุดมสมบูรณ์ ซึ่งมีโอกาสพังทลายได้ง่าย โดยเฉพาะถนนที่จำเป็นต้องตัดเลาะข้ามภูเขา ดังนั้นสิ่งสำคัญต้องเมื่อประชาชนได้รับการแจ้งเตือนแล้วจะต้องระมัดระวังในการสัญจรไปมา รวมทั้งต้องตรวจตราการกำหนดพื้นที่เสี่ยงภัย และจัดพื้นที่อยู่อาศัยที่ปลอดภัยในช่วงที่ฝนตก อีกทั้งรัฐบาลต้องจัดหามาตรการที่ยั่งยืนและถาวร เช่น การจัดหาพื้นที่ทำกินใหม่ แต่ไม่ใช่เฉพาะจ.น่านเท่านั้น ซึ่งต้องคำนึงถึงพื้นที่ปลูกยางพาราบนภูเขาด้วย โดยผู้ว่าราชการจังหวัด และนายอำเภอ ต้องเข้าไปดูแลในเรื่องนี้ เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ขึ้นอีก 

นายกรัฐมนตรี ยังเผยว่า ขณะนี้เกิดฝนตกหนักในหลายพื้นที่ เบื้องต้นตนได้สั่งการให้เตรียมการในการบรรเทาสาธารณภัย ของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย หรือ ปภ. ศูนย์ติดตามบรรเทาภัยพิบัติของรัฐบาล โดยได้รับรายงานว่ามีฝนตกในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะพื้นที่สูงที่มีความเสี่ยงเกิดอุทกภัย มีทั้งหม�� 59 จังหวัด ดังนั้นต้องมีการเตรียมการเก็บข้าวของ และการอพยพเมื่อจำเป็น ไม่ใช่ว่าจะมีการแจ้งเตือนแล้วแต่กลับอยู่เฉยๆ และเกิดปัญหาขึ้นไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร ส่วนคลื่นลมในทะเลนั้น เรือประมง และเรือท่องเที่ยว ต้องฟังคำแจ้งเตือนของเจ้าหน้าที่ และเรือเล็กห้ามออกจากฝั่ง นอกจากนี้ จะต้องมีแผนเผชิญเหตุ และการแจ้งเตือนไว้ล่วงหน้า หากมีฝนตกหนัก และมีปริมาณน้ำเกินกว่าที่เคยมีมาก จะต้องอพยพไปยังพื้นที่ปลอดภัย