การถกเถียงในสังคมเรื่องความเหมาะสมเริ่มดังขึ้นอีกเหมือนทุกครั้งที่มีการศึกษาเรื่องนี้ กลุ่ม CARE จึงจัดพูดคุยเรื่องนี้โดยเชิญ ดร.วิโชติ วัณโณ อดีตอาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง /  เต้ มงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ รองประธาน กมธ. และ หัวหน้าพรรคไทยศิวิไลซ์ / ท็อป จักรพล ตั้งสุทธิธรรม ส.ส.เพื่อไทย ผู้ผลักดันนโยบายทะเล 5 สี มาร่วมสนทนา

มงคลกิตติ์ระบุว่า กมธ.จะมีการตั้งคณะอนุกรรมการ 5-6 คณะมาดูแต่ละด้านให้รอบคอบ และมีการตั้งที่ปรึกษาหลากหลายสาขา เพื่อดูความเป็นไปได้และข้อจำกัดต่างๆ ที่ควรกำหนดในการดำเนินการ โดยเชื่อว่าในสภาวะเศรษฐกิจที่ย่ำแย่และรัฐถังแตก การนำธุรกิจสีเทาอย่างบ่อนการพนันขึ้นมาบนดินจะสามารถสร้างรายได้ให้รัฐและประชาชนได้อย่างมาก การมี Entertainment Complex ถ้าทำนอกเมืองก็จะยิ่งกระจายรายได้กระจายความเจริญไปยังพื้นที่อื่น

ขณะที่จักรพล ส.ส.เพื่อไทย ระบุว่า คาสิโนเป็นหนึ่งในองค์ประกอบของ Entertainment Complex ซึ่งจะเป็นศูนย์ความบันเทิงครบวงจรระดับเวิร์ลคลาส ไม่ว่าจะเป็น MotoeGP ศูนย์การค้า สวนสนุก hospital ฯลฯ การศึกษาของ กมธ.จะหารูปแบบการจัดการที่เหมาะสม และพยายามอุดปัญหาที่สังคมห่วงกังวลให้ครบ เชื่อว่าประเทศไทยมีความพร้อมที่จะทำแล้ว ที่ผ่านมามีการศึกษาเรื่องนี้หลายครั้ง ตั้งแต่ปี 2546 ยุคนายกฯ ทักษิณ ปี 2551 ยุคนายกฯ สมัคร ปี 2554 ยุคนายกฯ ยิ่งลักษณ์ ปี 2558 ยุคสภาปฏิรูปแห่งชาติ และล่าสุดปีนี้

“พรรคเพื่อไทยย้ำเสมอว่ามันคือ Entertainment Complex ไม่ได้จะเปิดบ่อนออนไลน์ บ่อนถูกกฎหมาย คาสิโนประเทศไทยพร้อมหรือยังเรามาศึกษากัน แต่เรากำลังพูดถึงวงใหญ่กว่านั้นด้วยคือศูนย์ความบันเทิงครบวงจร ซึ่งจะตอบโจทย์ ลดความรู้สึกด้านความเหลื่อม อย่างไรก็ตาม ในท้ายที่สุดไม่ว่าสภาศึกษาออกมาอย่างไร เรื่องนี้ก็ต้องฟังเสียงของประชาชน จึงเน้นย้ำกันว่าต้องศึกษาให้ครบทุกมิติและเพื่อคนทุกกลุ่มอย่างแท้จริง”

จักรพลยกตัวอย่างมาเก๊าซึ่งรายได้สูงสุดที่เข้าประเทศคือ คาสิโน ต้องถอดความคิดและการจัดการว่าทำอย่างไร รายได้ต่อคืนจึงสูงกว่า LA ทั้งที่เขาไปศึกษาโมเดลของที่นั่น ประเทศไทยมีจุดเด่นหลายอย่างที่สามารถสอดแทรกประสบการณ์ความเป็นไทยให้ชาวต่างชาติมีประสบการณ์และจดจำได้ ไม่ว่าเรื่องอาหาร นวดแผนไทย ซึ่งหากเรื่องนี้จะเกิดขึ้นจริงก็สามารถทดลองทำโซนนิ่งในบางพื้นที่ก่อนก็ได้

วิโชติ กล่าวว่า หากมองในมุมรัฐศาสตร์ นั่นคือ การเข้าไปจัดการสิ่งที่มีอยู่และเป็นไปในสังคม บ่อนการพนันเป็นสิ่งที่มีมากมายอยู่แล้ว  อ.สังศิต พิริยะรังสรรค์ และทีมเคยศึกษาพบว่า แต่ละปีบ่อนการพนันมีมูลค่า 8-9 แสนล้าน รัฐจึงควรเข้าไปจัดการเรื่องนี้ และรัฐมีองคาพยพมากมายที่จะดำเนินการ ส่วนการคัดค้านด้วยเกรงว่าจะเป็นบ่อเกิดอาชญากรรม ยังไม่มีการศึกษาชัดเจนในต่างประเทศว่าคาสิโนเป็นผลโดยตรงให้เกิดอาชญากรรม เพราะมีทั้งที่เกิดขึ้นมากขึ้น เกิดเหมือนเดิม และมีทั้งที่อาชญากรรมต่ำลงด้วย

ส่วนข้อคัดค้านด้านศีลธรรม ต้องเข้าใจว่ามาตรฐานทางศีลธรมเป็นเรื่องพัฒนาการทางสังคมว่าแต่ละห้วงเวลานั้นอะไรที่พอจะเป็นไปได้ อย่างห้ามฆ่าสัตว์ แต่ความเป็นจริงของโลกก็ยังต้องฆ่าสัตว์เพื่อเป็นอาหาร และหลายเรื่องก็เปลี่ยนไปตามพัฒนาการของสังคม เช่น แนวคิดเรื่องพรหมจรรย์ของผู้หญิง เชื่อว่าเรื่องเหล่านี้สามารถอธิบายกับประชาชนด้วยเหตุด้วยผลได้

“ถามว่าจะทำยังไง มีหลากหลายวิธี อ.ผาสุก พงษ์ไพจิตร เคยกล่าวปาฐกถาเรื่องคาสิโนในการสัมมนาครั้งหนึ่งว่า ทำได้สามลักษณะ คือ แยกออกไปเลย เป็นในลักษณะชุมชน เป็นในลักษณะเป็น machine ให้คนมาเล่น หากเราดูสิงคโปร์ทำแล้ว มีทั้งการพนัน มีทั้งโรงแรม ทั้งการแสดง ทั้งศูนย์ประชุมนานาชาติ ซึ่งดึงดูดให้นักท่องเที่ยวเข้ามา เมืองไทยเราพร้อม เรามีศักยภาพ เรามีสังคมที่สนใจในเรื่องนี้ เรามีรัฐที่พยายามทำให้เรื่องคาสิโนมันถูกต้องแล้วรัฐสามารถหารายได้จากตรงนี้ในรูปภาษี สัมปทาน หรืออาจเป็นรายได้ถ้ารัฐร่วมลงทุนเอง”