ไม่พบผลการค้นหา
หลังจากที่ทางการของรัสเซียได้ออกมาระบุเมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า รัสเซียได้ทำการถอนกำลังของตนเองบางส่วนออกจากบริเวณชายแดนยูเครนแล้ว อย่างไรก็ดี สหรัฐ เพิ่งได้ออกมาระบุถึงคำกล่าวอ้างดังกล่าวของรัสเซียว่าเป็น “เรื่องไม่จริง” แถมรัสเซียยังได้มีการเพิ่มทหารพิเศษของตนอีกกว่า 7,000 นาย เข้าไปยังบริเวณพรมแดนของตนที่ติดกับยูเครนด้วย

สหรัฐฯ ยังได้ระบุอีกว่า ข้อกล่าวอ้างของรัสเซียดังกล่าวเป็นการปล่อยข้อแก้ตัวที่ “ไม่จริง” เพื่อเป็นอุบายที่จะทำให้การบุกยูเครนเกิดขึ้น “ได้ในทุกเวลา” ถึงแม้ว่ารัสเซียจะยืนยันว่าตนได้ถอนกำลังบางส่วนออกจากการซ้อมรบบริเวณชายแดนยูเครนแล้ว แต่ชาติพันธมิตรตะวันตกระบุว่า ยังไม่มีหลักฐานใดๆ ที่ชี้แน่ชัดว่าคำพูดดังกล่าวของรัสเซียเป็นความจริง

จากการหารือกันผ่านทางโทรศัพท์ระหว่าง โจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ และ โอลาฟ โชลซ์ นายกรัฐมนตรีเยอรมนีเมื่อวันพุธที่ผ่านมา (16 ก.พ.) ไบเดนได้ยืนยันว่า “รัสเซียจะต้องทำการลดระดับสถานการณ์” ของตนเองลงเท่านั้น

ถึงแม้ว่าในวันเดียวกันจะมีการปล่อยภาพวิดีโอที่รัสเซียกำลังถอนกำลังรถถังของตนเองออกจากบริเวณไครเมีย ที่ถูกผนวกมาจากยูเครนตั้งแต่ปี 2557 แต่เจ้าหน้าที่ระดับสูงของทำเนียบขาว ชี้ว่า ทางการสหรัฐฯ พบหลักฐานว่าในวันเดียวกันนั้นเอง รัสเซียได้เสริมกำลังของตนเองกว่า 7,000 นายเข้าไปประชิดยังพื้นที่ใกล้ชายแดนยูเครน

“เรายังไม่เห็นการถอนกำลังใดๆ เราแค่ได้ยินมา” โวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ประธานาธิบดียูเครน ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว BBC ยืนยันว่า ยังไม่มีหลักฐานชี้ชัดถึงการถอนกำลังของรัสเซียออกจากบริเวณพรมแดน 

นอกจากนี้ เจนส์ สโตลเทนเบิร์ก เลขาธิการองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (NATO) ยังได้ย้ำว่า ยังไม่มีหลักฐานใดๆ บ่งชี้ว่า รัสเซียได้ทำการลดระดับกองกำลังของตนเองลง และสิ่งที่รัสเซียกำลังกระทำ ได้กลายไปเป็นภัยคุกคามแบบ “นิวนอร์มอล”

เลขาธิการองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือระบุว่า ถึงแม้ว่า วลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซียจะไม่ได้มีการสั่งการให้กองทัพบุกยูเครน แต่ผลลัพธ์จากความตึงเครียดในครั้งนี้จะส่งผลให้เกิดวิกฤตที่เป็นเงาดำมืดลากยาวตามมา โดยสถานการณ์ความตึงเครียดในตอนนี้ เป็นวิกฤตที่เกิดขึ้นในยุโรปหนักที่สุดเท่าที่เคยเกิดขึ้นมานับตั้งแต่ช่วงสงครามเย็น

ชาติพันธมิตรตะวันตกยังคงรอคอยการพูดคุยเจรจากับทางรัสเซียเพิ่มเติม พร้อมเตือนรัสเซียมาโดยตลอดว่า การตัดสินใจรุกรานยูเครนใดๆ จะส่งผลให้เกิดการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจอย่างหนัก ยังไม่นับรวมถึงมาตรการอื่นๆ ที่จะตามมา หากมีการมุ่งเป้าโจมตีพลเมืองของยูเครน ทั้งนี้ ปูตินยังคงระบุกับชาติตะวันตกว่า ตนเองพร้อมพูดคุยกันในประเด็นอื่นๆ เพิ่มเติมเสมอ ก่อนที่ทุกอย่าง “จะสายเกินไป”

ที่มา:

https://www.bbc.com/news/world-europe-60407010

https://edition.cnn.com/2022/02/16/politics/russian-troops-biden-administration/index.html