ทั้งนี้ สีมีกำหนดการเยือนฮ่องกงเป็นเวลาสองวัน หรือจนกว่าจะถึงวันที่ 1 ก.ค. ซึ่งตรงกันกับโอกาสครบรอบ 25 ปีการคืนเกาะฮ่องกงจากสหราชอาณาจักรมาให้แก่จีน และจะเป็นโอกาสเดียวกันกับการทำพิธีสาบานตนของ จอห์น ลี ผู้นำฮ่องกงคนใหม่ ที่ได้รับการแต่งตั้งจากจีนแผ่นดินใหญ่ ทั้งนี้ ลีเคยเป็นอดีตเจ้าหน้าที่ตำรวจ และผู้บัญชาการหน่วยความปลอดภัยของฮ่องกงมาก่อน
การเหยียบผืนดินนอกจีนแผ่นดินใหญ่ครั้งแรกในรอบเกือบ 900 วันของสี สร้างความสนใจให้แก่ทั่วโลก เนื่องจากสีเคยเดินทางออกนอกจีนแผ่นดินใหญ่ครั้งล่าสุดเมื่อวันที่ 17 ม.ค. 2563 ในขณะที่กิจการทางการทูตทั้งหมดถูกจำกัดลง และประธานาธิบดีจีนได้เขาร่วมการประชุมทวิภาคีและพหุภาคีใดๆ ผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์เท่านัน
สีเดินทางถึงเกาะฮ่องกงด้วยรถไฟฟ้าความเร็วสูง ผ่านช่องทางเมืองเซินเจิ้นเมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา ท่ามกลางเสียงประชาชนร้องต้อนรับว่า “ยินดีต้อนรับ ยินดีต้อนรับ ยินดีต้อนรับด้วยความอบอุ่น” พร้อมกับการโบกธงชาติจีนไปพร้อมๆ กัน โดยสีได้เดินบนพรมแดง พร้อมกับการแสดงเชิดสิงโต และการบรรเลงตีกลอง เพลงเชียร์ และเสียงแตร เพื่อเป็นการแสดงการต้อนรับประธานาธิบดีจีนสู่เกาะอดีตอาณานิคมสหราชอาณาจักร
เมื่อเดินทางมาถึงฮ่องกง สีได้รับการต้อนรับจาก แคร์รี หล่ำ ผู้บริหารฮ่องกงที่กำลังจะหมดวาระลง พร้อมกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงของฮ่องกงรายอื่นๆ ทั้งนี้ หลังจากการพูดคุยแลกเปลี่ยนเล็กน้อย สีพร้อมเจ้าหน้าที่จากทางการจีนได้เดินผ่านออกไปจากสถานีรถไฟ พร้อมกับการโบกมือทักทายประชาชนที่มารอต้อนรับ
“มันเป็นเวลากว่า 5 ปีแล้ว นับตั้งแต่ผมเยือนฮ่องกงในครั้งล่าสุด ตลอดระยะเวลา 5 ปีมานี้ ผมได้ให้ความสนใจแก่ฮ่องกง และเอาใจใส่มันอย่างสูงโดยตลอด” สีกล่าวสุนทรพจน์ต่อชาวฮ่องกง “ในช่วงไม่กี่ปีมานี้ ฮ่องกงได้ยืนหยัดกับการถูกทดสอบอย่างรุนแรงครั้งแล้วครั้งเล่า และเอาชนะความเสี่ยงและความท้าทายครั้งแล้วครั้งเล่า หลังจากผ่านพ้นพายุไปได้ ฮ่องกงได้กลับฟื้นคืนจากเถ้าถ่านสู่การมีชีวิตชีวาอีกครั้ง”
สีเดินทางมาถึงฮ่องกง พร้อมกับการคาดการณ์สภาพอากาศว่าอาจเกิดพายุไต่ฝุ่นรุนแรง ซึ่งจะก่อให้เกิดลมแรงและฝนถล่ม ตลอดจนความไม่แน่นอนที่อาจเกิดขึ้น หลังจากประธานาธิบดีจีนเดินทางออกนอกฟองสบู่ที่ปิดกั้นการแพร่ระบาดโควิด-19 ของแผ่นดินใหญ่ ทั้งนี้ เป็นระยะเวลา 3 ปี ที่จีนใช้นโยบายโควิดเป็นศูนย์ ในขณะที่สีกำลังเยือนเกาะฮ่องกงที่มีรายงานผู้ติดเชื้อวันละ 1,000 ราย
จีนยังตงใช้นโยบายโควิดเป็นศูนย์ ซึ่งส่งผลให้มีการควบคุมการเดินทางเข้าออกประเทศอย่างเข้มงวด พรมแดนของจีนยังถูกปิด และการเดินทางเข้าประเทศยังคงต้องพบกับมาตรการกักตัวของทางการจีนที่เข้มงวดเป็นอันดับต้นๆ ของโลก
สีพยายามสร้างวาทกรรมการปิดเมืองจนส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของตนเอง โดยในปี 2562 สำนักข่าวซินหัวของรัฐบาลจีนรายงานว่า นโยบายโควิดเป็นศูนย์คือการที่ประธานาธิบดีจีนเลือกที่จะ “เสียสละการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจเพียงเล็กน้อย” มากกว่า “การก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพของประชาชน” นอกจากนี้ สียังได้ย้ำว่า “ถ้าเราคำนวณผลได้ผลเสียทั้งหมด นโยบายโควิดของเราสอดคล้องต่อเศรษฐกิจและมีประสิทธิภาพ” พร้อมยืนยันว่าจีนจะใช้นโยบายโควิดเป็นศูนย์ “จนกว่าวันแห่งชัยชนะสุดท้าย” จะมาถึง
ฮ่องกงเองเป็นหนึ่งสถานที่ ที่ได้รับอิทธิพลในการกำหนดนโยบายโควิดเป็นศูนย์จากรัฐบาลจีนแผ่นดินใหญ่อย่างรุนแรง ทั้งมาตรการการกักตัวที่เข้มงวด และการปิดพรมแดนที่แน่นหนา เช่นเดียวกันกับการจำกัดการรวมตัวกันของประชาชน เพื่อหลีกเลี่ยงการประกาศมาตรการล็อกดาวน์ที่อาจจะยืดยาวออกไป ตลอดจนการประกาศปูพรมตรวจโควิด-19 ครั้งใหญ่ อย่างที่เซี่ยงไฮ้และซีอานของจีนแผ่นดินใหญ่เคยทำเช่นเดียวกัน
การเดินทางเยือนฮ่องกงของสีเองเต็มไปด้วยความเข้มงวด โดยเจ้าหน้าที่ที่มีกำหนดการเดินทางเยือนฮ่องกงพร้อมสี ถูกสั่งล่วงหน้าเพื่อจำกัดไม่ให้เข้าร่วมงานสาธารณะ ทุกคนถูกจำกัดการใช้ยานพาหนะส่วนตัวในการเดินทาง และถูกตรวจหาเชื้อโควิด-19 ในทุกๆ วัน และต้องอยู่ในโรงแรมเพื่อกักตัวในคืนวันนี้ ก่อนงานพิธีการฉลองครบรอบการส่งมอบฮ่องกงคืนจากสหราชอาณาจักรในวันพรุ่งนี้
การเยือนฮ่องกงครั้งล่าสุดของสี เกิดขึ้นเมื่อปี 2560 ในโอกาสครบรอบ 20 ปี การคืนเกาะฮ่องกงจากสหราชอาณาจักรมาให้แก่จีนได้ปกครองอีกครั้ง ซึ่งเป็นช่วงเดียวกันที่สีเจอเข้ากับกลุ่มผู้ประท้วงนิยมระบอบประชาธิปไตยเต็มท้องถนน ที่ออกมาประท้วงการแทรกแซงกิจการของฮ่องกงจากจีนแผ่นดินใหญ่ อย่างไรก็ดี อาจไม่มีกลุ่มผู้ประท้วงในฮ่องกงต่อสีมารวมตัวกันในปีนี้ เนื่องจากแกนนำเกือบทั้งหมดกว่าหลายสิบชีวิต ถูกจับกุมคุมขังในเรือนจำไปแล้ว ภายใต้กฎหมายความมั่นคงแห่งชาติที่ออกมาเมื่อ 2 ปีก่อน
การเดินทางเยือนฮ่องกงของสีได้รับการรักษาความปลอดภัยชั้นสูง โดยตำรวจฮ่องกงได้เพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัย ทั้งการปิดพื้นที่และอาคารใกล้เคียง สะพานลอย ถนนทางหลวง สถานีรถไฟ สถานที่ที่มีผู้คนพลุกพล่านที่สุดของฮ่องกงต่างถูกปิดเป็นการชั่วคราวตั้งแต่วันนี้จนถึงวันพรุ่งนี้เช่นกัน ยังมีการประกาศเขตห้ามบินรอบฮ่องกง และจำกัดการใช้โดรนขณะสีเยือนฮ่องกงด้วย
นอกจากนี้ การนำเสนอข่าวยังถูกจำกัดอย่างหนัก โดยจากรายงานของสมาคมผู้สื่อข่าวฮ่องกงเปิดเผยว่า มีผู้สื่อข่าวอย่างน้อย 10 ราย ทั้งในฮ่องกงและต่างชาติ ที่ถูกปฏิเสธใบขออนุญาตการเข้ารายงานข่าวในงานฉลองครั้งนี้ ภายใต้ “เหตุผลด้านความปลอดภัย” ถึงแม้โอกาสครบรอบ 25 ปี การส่งคืนฮ่องกงจากสหราชอาณาจักรมาให้แก่จีน จะเป็นงานสำคัญที่ผู้สื่อข่าวหลายคนประสงค์จะเข้ารายงานข่าวก็ตาม
ที่มา: