ไม่พบผลการค้นหา
'นิติพล' ผิดหวังรัฐบาล แก้ปัญหาฝุ่น PM 2.5 ไม่ควิกวิน ชี้มีแต่คำแก้ตัว หาข้ออ้างให้นายทุน รัฐบาลออกมาตรการห้ามเผา ช่วยได้แน่

วันที่ 16 ธ.ค. นิติพล ผิวเหมาะ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กล่าวว่า หลังได้ฟังคำชี้แจงของ นภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ตอบกระทู้ถามสดของ ภัทรพงษ์ ลีลาภัทร์ สส.เชียงใหม่ เขต 8 พรรคก้าวไกล ถึงเรื่องการแก้ไขปัญหาฝุ่น PM 2.5 แล้วรู้สึกผิดหวังในคำตอบ และสะท้อนว่าปัญหานี้อาจไม่ถูกแก้ในรัฐบาลชุดนี้

นิติพล กล่าวว่า ประเด็นสำคัญคือ ท่านทราบดีแก่ใจว่า ปัญหาฝุ่นพิษ PM2.5 ที่เกิดขึ้นในช่วงนี้ไปจนถึงเดือนกุมภาพันธ์ สาเหตุใหญ่มาจากฝุ่นข้ามพรมแดนอันเนื่องมาจากการเผาไร่ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ในประเทศเพื่อนบ้านเพื่อป้อนบริษัทการเกษตรยักษ์ใหญ่ของไทย แต่ท่านก็ยังพยายามปิดหูปิดตาหาคำตอบให้ตัวเอง บอกให้ไปพิสูจน์นั่นนี่เพื่อไม่ดำเนินการใดๆ ในการแก้ปัญหาเร่งด่วนของพี่น้องประชาชน

นิติพล กล่าวต่อว่า เมื่อเรามีข้อเสนอให้ใช้เทคโนโลยีตรวจจับจัดจุดความร้อน เพื่อออกมาตรการไม่รับซื้อสินค้าการเกษตรที่มาจากพื้นที่ที่มีการเผา เพราะกระทบต่อสุขภาพและเศรษฐกิจโดยเฉพาะการท่องเที่ยวของไทยอย่างรุนแรง ท่านกลับอ้างว่า ทำไม่ได้ เพราะแม้แต่ไทยเองยังไม่มีมาตรการห้ามเผา มีเพียงการขอความร่วมมือเกษตรกร จะไปออกมาตรการห้ามซื้อในสิ่งที่ไทยเองก็ไม่มีมาตรการไม่ได้ และการออกมาตรการห้ามเผาเป็นเรื่องของกระทรวงเกษตรฯ ไม่ใช่กระทรวงพาณิชย์

นอกจากนี้ ท่านยังบอกอีกว่า หากจะห้ามไม่ให้ซื้อยังจะต้องพิสูจน์ให้ได้ด้วยว่า ฝุ่น PM2.5 จากการเผาเป็นเพียงปัจจัยเดียว ไม่ใช่มาจากปัจจัยอื่น และฝุ่นดังกล่าวต้องพิสูจน์อีกเช่นกันว่ามีผลกระทบต่อสุขภาพจริง แต่รัฐบาลไม่นิ่งนอนใจได้ตั้งคณะกรรมการ 2 ชุดมาแก้ปัญหาแล้ว

"คำตอบแบบนี้แค่หาข้ออ้างให้นายทุนสร้างมลพิษและทำลายสุขภาพคนไทยต่อไปได้ ทั้งที่ในประเทศไทยต้องแสดงพื้นที่เพาะปลูกโดยละเอียดว่ามาจากแหล่งใด แต่ในกรณีข้าวโพดนอกพรมแดนแค่บอกกว้างๆว่ามาจากประเทศใดเท่านั้น ผมเชื่อว่ากระทรวงพาณิชย์สามารถกำหนดรายละเอียดเหล่านี้ได้เพื่อเป็นข้อมูลในการตัดสินใจรับซื้อข้าวโพดข้ามพรมแดนหรือไม่ได้" นิติพล กล่าว

นอกจากนี้ นิติพล ระบุว่า ตนเชื่อว่าการออกมาตรการห้ามเผาในไทยเพื่อให้กระทรวงพาณิชย์ไปดำเนินการต่อสามารถทำได้แน่ หากนายกรัฐมนตรีไม่ลืมที่จะควิกวิน เพื่อทำตามนโยบายที่เพื่อไทยเคยหาเสียงไว้ว่าจะแก้ที่ต้นตอ ซึ่งต้นตอปัญหาอยู่ตรงไหนท่านเห็นอยู่แล้ว กระทบสุขภาพหรือไม่ ท่านแค่ลองย้ายตัวเอง โดยเอาปอดท่านไปสูดอากาศเชียงใหม่ทุกๆเช้าจากวันนี้ไปจนจบเดือนกุมภาพันธ์ วันละชั่วโมงก็พอ ท่านจะได้คำตอบด้วยตัวท่านเองว่ากระทบสุขภาพหรือไม่

"ผมเชื่อเป็นอย่างยิ่งว่า ทุกอย่างสามารถดำเนินการได้ทันที แค่ นายกฯ กล้าขยับเหมือนที่ชอบเรียกหน่วยงานต่างๆมาคุยก่อนขึ้นเครื่องบินไปประเทศต่างๆ การเอากระทรวงพาณิชกับเกษตรมาคุยกันและเคาะมาตรการเร่งด่วนออกมาแก้ปัญหาแบบควิกวินที่ท่านชอบพูดคงไม่ยากเกินไปอย่างแน่นอน สำหรับชายที่ชื่อเศรษฐา ทวีสิน ส่วนการตั้งคณะกรรมการนั่นนี่ขึ้นมานั้น สำหรับผมมองไม่ต่างจากการซื้อเวลาหาข้อแก้ตัวว่ามีการขยับแล้ว สมัยรัฐบาลก่อน พลเอกประยุทธ์ นั่งหัวโต๊ะเป็นประธานคณะกรรมการเป็นร้อยชุด ผมก็ไม่เห็นจะขับเคลื่อนประเทศไปไหนได้”นิติพล กล่าว

นิติพล ยังกล่างต่อว่า หรือที่ท่านบอกว่าจะผลักดัน ร่างพ.ร.บ.อากาศสะอาด เป็นเรื่องดี ผมก็เห็นด้วย แต่พวกท่านย่อมรู้ดีว่ากฎหมายแต่ละฉบับกว่าจะผ่านมันใช้เวลานานเป็นปีๆ แต่ตอนนี้เขากำลังเผชิญปัญหาอยู่ตรงหน้า จึงต้องพึ่งอำนาจฝ่ายบริหารให้ทำอะไรเป็นรูปธรรมสักอย่าง ถ้าไม่ทำอะไรเลยเขาก็ไม่รู้จะมีฝ่ายบริหารไว้ทำไม

"อันดับแรกพวกท่านต้องหยุดแก้ปัญหาแบบซื้อเวลา แล้วกล้าที่จะแก้ที่ต้นตอ เพราะสุขภาพประชาชนเจอวิกฤตนี้มาเป็นสิบปีแล้ว มีคนตายจริงป่วยจริงหลายคนแล้วเช่นกัน อย่าให้เขาต้องรอเพราะมัวแต่เกรงใจนายทุนเลย" นิติพล กล่าว