ต่างประเทศ
‘ไบเดน’ ชี้ไม่ชัดจีนห้ามโสมแดงได้ หลังขอจีนคุยเกาหลีเหนือหยุดทดลองนิวเคลียร์
ไบเดนหารือกับสีนานกว่า 3 ชั่วโมงในวันจันทร์ที่ผ่านมา (14 พ.ย.) ก่อนการประชุมสุดยอด G20 ในบาหลี ซึ่งเป็นการประชุมแบบเห็นหน้ากันครั้งแรกของทั้งสอง นับตั้งแต่ไบเดนเข้ารับตำแหน่ง และสีที่ได้รับเลือกให้เป็นประธานาธิบดีต่อในวาระที่ 3 โดยในงานแถลงข่าวหลังการประชุม ไบเดนกล่าวว่า ตนบอกกับสีว่า “ผมคิดว่าพวกเขามีหน้าที่ต้องพยายามทำให้ชัดเจน” ต่อเกาหลีเหนือว่า เกาหลีเหนือไม่ควรทำการทดสอบนิวเคลียร์อีกต่อไป
อย่างไรก็ดี ทางการเกาหลีใต้กล่าวว่าเกาหลีเหนือได้เสร็จสิ้นการเตรียมการทางเทคนิคทั้งหมด สำหรับการทดสอบนิวเคลียร์ครั้งใหม่ และสหรัฐฯ ได้ออกมาเตือนเป็นเวลาหลายเดือนว่า การทดสอบนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือในครั้งต่อไปอาจเกิดขึ้นในไม่ช้านี้
หลังจากผู้สื่อข่าวสอบถามไบเดน ถึงขอบเขตที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เชื่อว่าจีนมีความสามารถในการพูดกับเกาหลีเหนือ ในประเด็นการทำการทดสอบนิวเคลียร์ ไบเดนกล่าวว่า ตนไม่แน่ใจว่าจีนจะ “ควบคุม” เพื่อนบ้านและพันธมิตรเก่าแก่ของตนอย่างเกาหลีเหนือได้หรือไม่
“มันเป็นการยากที่จะตัดสินว่าจีนมีความสามารถหรือไม่” ไบเดนระบุกับผู้สื่อข่าว “ผมมั่นใจว่าจีนไม่ได้มองไปยังเกาหลีเหนือ เพื่อเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับการยกระดับสถานการณ์เพิ่มเติม” ประธานาธิบดีวหรัฐฯ กล่าวเสริม
ทั้งนี้ มาตรการคว่ำบาตรระหว่างประเทศที่นำโดยสหรัฐฯ กลับล้มเหลวในการหยุดโครงการอาวุธนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ โดยระบอบการปกครองของ คิมจองอึน ผู้นำสูงสุดเกาหลีเหนือ ทำการทดสอบอาวุธทำลายสถิติเดิมในปีนี้ ซึ่งรวมถึงการยิงขีปนาวุธข้ามทวีป ที่ออกแบบมาเพื่อให้ยิงไปไกลได้ถึงแผ่นดินใหญ่ของสหรัฐฯ
จีนและรัสเซียเองสนับสนุนมาตรการคว่ำบาตรขององค์การสหประชาชาติที่เข้มงวดขึ้น หลังการทดสอบนิวเคลียร์ครั้งล่าสุดของเกาหลีเหนือในปี 2560 แต่ในเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา ทั้ง 2 ประเทศได้ลงมติคัดค้านมติการผลักดันที่นำโดยสหรัฐฯ ให้มีการคว่ำบาตรเพิ่มเติมจากองค์การสหประชาชาติ หลังการยิงขีปนาวุธครั้งใหม่ของเกาหลีเหนือ
เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ยังออกมากล่าวหาว่า จีนและรัสเซียยอมให้มีโครงการขีปนาวุธและระเบิดของเกาหลีเหนือ หลังจากที่ทั้ง 2 ชาติไม่สามารถบังคับใช้มาตรการคว่ำบาตร ของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติแก่เกาหลีเหนือได้อย่างเหมาะสม
ไบเดนยังบอกกับสีว่า สหรัฐฯ จะตอบสนองต่อการทดสอบนิวเคลียร์โดยเกาหลีเหนือ และจะปกป้องพันธมิตรในภูมิภาคนี้ ซึ่งรวมถึงเกาหลีใต้และญี่ปุ่นด้วย
เมื่อช่วงต้นเดือนนี้ ลอยด์ ออสติน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ กล่าวว่า การโจมตีด้วยนิวเคลียร์ในสหรัฐฯ หรือพันธมิตรโดยเกาหลีเหนือจะ “ส่งผลให้ระบอบคิมพบกับจุดจบ” การออกมาพูดที่คล้ายกันนี้มีอยู่ในแผนยุทธศาสตร์การป้องกันแห่งชาติสหรัฐฯ ซึ่งเผยแพร่ในเดือน ต.ค.ที่ผ่านมาด้วยเช่นกัน
ที่มา:
