นายอดุลย์ เขียวบริบูรณ์ ประธานคณะกรรมการญาติวีรชน 2535 กล่าวว่า ตามที่นายประมนต์ สุธีวงศ์ ประธานองค์กรต่อต้านคอร์รัปชันออกมาให้คะแนนรัฐบาลเรื่องต่อต้านการทุจริตเต็มร้อยนั้น คณะกรรมการญาติวีรชน 35 และ ภาคประชาชน ไม่เห็นด้วยอย่างยิ่ง และเห็นว่ารัฐบาลสอบตกเรื่องการปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชันเพราะประชาชนยังคาใจในปัญหาการทุจริตคอรัปชั่นของรัฐบาลนี้ในหลายเรื่อง

นายอดุลย์ยังยกตัวอย่างเช่น เรื่องนาฬิกาของพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ ที่ ปปช. ยังยื้อเวลาการตรวจสอบ ปัญหาการทุจริตใน อผศ. เรื่องการขุดลอกคลอง ปัญหาการทุจริตช่วยคนลำบากของกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ปัญหาทุจริตในกระทรวงศึกษา ข้อสงสัยการปัญหาทุจริตในการจัดซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ ปัญหาการเอื้อประโยชน์นายทุนขนาดใหญ่ ปัญหาทุจริตในร้านธงฟ้าประชารัฐขายเกินราคา ปัญหาการเอาที่ดินมักกะสันรวมเข้ากับโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน ปัญหาทุจริตในกองทุนอนุรักษ์พลังงานของกระทรวงพลังงาน ปัญหาการซื้อหุ้นเหมืองถ่านหิน ปัญหาทุจริตโรงไฟฟ้าชีวมวลของกระทรวงมหาดไทย เป็นต้น

"ปัญหาเหล่านี้ยังไม่ได้รับการชี้แจงและแก้ไข ขนาดไม่มีฝ่ายค้านตรวจสอบในสภายังมีเรื่องมากมายขนาดนี้ หากมีการตรวจสอบจะมีเพิ่มมากขึ้นขนาดไหน ไม่อยากให้ใช้องค์กรต่อต้านคอรัปชั่นเป็นเครื่องฟอกขาวให้กับรัฐบาล เพราะในยุคข้อมูลข่าวสารและโซเชียลมีเดียประชาชนทราบดีว่ารัฐบาลมีข้อสงสัยในเรื่องทุจริตอย่างไรและในเรื่องใดบ้าง การรับรองที่สวนกระแสความคิดและความรู้สึกของประชาชนจะทำให้องค์กรต่อต้านทุจริตหมดความน่าเชื่อถือ และ กลายเป็นเครื่องมือของรัฐบาลและคสช. ไป"

ประธานคณะกรรมการญาติวีรชน 2535 กล่าวและย้ำว่า ภาคประชาชนและคณะกรรมการญาติวีรชน 35 จึงต้องเป็นหลักให้กับประเทศชาติ และรักษาผลประโยชน์ให้กับประชาชน และต้องเป็นหลักให้กับประชาชนในการตรวจสอบความเป็นจริงที่เกิดขึ้นในประเทศ โดยเฉพาะเรื่องทุจริตคอร์รัปชันนี้