วันที่ 10 มี.ค. 2566 จาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรองนายกรัฐมนตรี และกรรมการยุทธศาสตร์และทิศทางการเมืองพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ภายหลังพบหนังสือรายชื่อรัฐมนตรีที่เดินทางไปตรวจราชการพร้อม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ที่ จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งรายละเอียดในเอกสารพบว่าการเร่งตรวจราชการในช่วงนี้เพียงเพื่อใช้งบประมาณเพื่อชิงความได้เปรียบช่วงเลือกตั้ง โดยระบุว่า ใครดูรายชื่อผู้ร่วมคณะนายกฯไปตรวจราชการที่ฉะเชิงเทราแล้วก็จะเข้าใจทันทีว่าทำไม พล.อ.ประยุทธ์จึงไม่ยุบสภาสักที แต่จะรอจนนาทีสุดท้ายก่อนสภาจะครบเทอมโน่นเลย

ไม่ทราบว่านายกฯ และคณะจะไปตรวจราชการเรื่องอะไร ฉะเชิงเทรามีอาชีพทางการเกษตรหลายอย่างที่เจอปัญหาต่างๆกันเช่นข้าว มะม่วง หมู และกุ้งเป็นต้น มีอุตสาหกรรมอยู่พอสมควรและยังเป็นส่วนหนึ่งของอีอีซีด้วย แต่ไม่เห็นมีรัฐมนตรีหรือข้าราชการประจำของกระทรวงเกษตร อุตสาหกรรมหรือสภาพัฒน์ไปด้วยเลย มีแต่รัฐมนตรีในโควตา พล.อ.ประยุทธ์และข้าราชการการเมืองที่ พล.อ.ประยุทธ์เพิ่งตั้งก่อนที่คนเหล่านี้จะมาเป็นกำลังสำคัญของพรรครวมไทยสร้างชาติเท่านั้น

แสดงว่าการตรวจราชการครั้งนี้ไม่ได้ต้องการจะมาแก้ปัญหาอะไรให้กับจังหวัดฉะเชิงเทรา แต่ต้องการมาหาเสียงให้กับพรรครวมไทยสร้างชาติเสียมากกว่า

นายกฯและรัฐมนตรีหลายๆคนนิยมทำกิจกรรมแบบนี้ ไปที่ไหนก็ไปสั่งโน่นอนุมัตินี่ แล้วทางพรรคก็เอาไปประกาศเป็นผลงานในเวทีหาเสียง ความจริงก็คือการใช้อำนาจหน้าที่ให้คุณให้โทษต่อพรรคการเมืองหรือนักการเมืองในการเลือกตั้งซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายว่าด้วยเจ้าหน้าที่ของรัฐต้องวางตัวเป็นกลาง

ที่สำคัญกิจกรรมลักษณะนี้จะทำไม่ได้เลยเมื่อยุบสภาและรัฐบาลอยู่ในสถานะรัฐบาลรักษาการ คือจะอนุมัติงบประมาณทั้งเฉพาะหน้าและงบผูกพันไม่ได้ ยกเว้นเรื่องฉุกเฉินที่ต้องได้รับความเห็นชอบจาก กกต.เสียก่อนด้วย

นี่เองที่เป็นสาเหตุให้ พล.อ.ประยุทธ์ไม่ยอมยุบสภาเร็วๆเพราะต้องการใช้เวลาให้นานที่สุดในการใช้อำนาจหน้าที่ให้คุณให้โทษต่อพรรคการเมืองเพื่อประโยชน์แก่พรรครวมไทยสร้างชาติให้มากที่สุด

พล.อ.ประยุทธ์อาจจะไปยุบสภาเอาวันที่ 21 หรือ 22 มี.ค.โน่น ถามว่าในเมื่อเหลืออีกเพียง 1-2 วันสภาฯก็จะครบเทอมอยู่แล้ว ทำไม พล.อ.ประยุทธ์ยังต้องยุบสภาอีก อันนี้เป็นการทำเพื่อประโยชน์ของ พล.อ.ประยุทธ์เองในอีกแง่มุมหนึ่ง

ถ้าไม่ยุบสภา พรรครวมไทยสร้างชาติจะไม่สามารถหานักการเมืองมาเพิ่มได้อีก ใครจะย้ายพรรคก็ไม่สามารถลงสมัครรับเลือกตั้งได้แล้ว เพราะต้องเป็นสมาชิกพรรคการเมืองไม่ต่ำกว่า 90 วัน แต่ถ้ายุบสภาใครก็ย้ายพรรคได้และมีสิทธิ์ลงสมัครรับเลือกตั้งได้

พล.อ.ประยุทธ์เป็นแคนดิเดตนายกฯ แต่จะมีคุณสมบัติเข้าแข่งในที่ประชุมรัฐสภาก็ต่อเมื่อพรรครวมไทยสร้างชาติมี ส.ส.ไม่น้อยกว่า 25 คนเรื่องนี้เป็นความเป็นความตายของ พล.อ.ประยุทธ์ ที่ดึงเวลาให้นานที่สุดก็ดี ที่ต้องยุบสภาก็ดี ไม่มีเหตุผลเรื่องประโยชน์ของบ้านเมือง เป็นเรื่องผลประโยชน์ของ พล.อ.ประยุทธ์เองเท่านั้น