วันที่ 22 พ.ย. 2565 จาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงสถานการณ์ของกลุ่ม 3 ป.ที่อาจแยกทางกัน โดยเฉพาะ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและอดีตผู้นำก่อการรัฐประหาร 2557 จะไปร่วมกับพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ส่วน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ จะนั่งบริหารพรรคพลังประชารัฐ จนดูเหมือนกลุ่มผู้มีอำนาจแยกทางกัน แต่ก็ได้เตือนฝ่ายประชาธิปไตยว่าอย่าประเมินผู้มีอำนาจกลุ่มนี้ต่ำเกินไป

ใครที่คิดว่าพรรครวมไทยสร้างชาติที่พล.อ.ประยุทธ์ให้ไปเตรียมการไว้จะได้ 20-30 ที่นั่ง แล้วทำให้ พล.อ.ประยุทธ์ ด้อยค่าทางการเมือง อาจจะต้องคิดใหม่หรือต้องเรียกว่า “คิดเก่า” เพราะต้องไม่ลืมว่า พล.อ.ประยุทธ์มี ส.ว. 250 คน อยู่ในมือซึ่งมากกว่า ส.ส. ที่พรรคของเขาจะได้ส.ส.ถึง 10 เท่าหรือมากกว่าถึง 200 กว่าเสียง และอำนาจต่อรองของพล.อ.ประยุทธ์ ก็อยู่ตรงนี้

จาตุรนต์ ระบุว่า จริงอยู่ที่ ส.ว. 250คนนี้ พล.อ.ประวิตรก็มีส่วนตั้งมาด้วย ซึ่งก็คงต้องแบ่งกัน และไม่มีใครรู้ว่าถ้าต้องแบ่งกันใครจะได้เสียง ส.ว.มากน้อยเท่าใด แต่ก็ต้องไม่ลืมอีกว่า 3 ป.เขาร่วมเป็นร่วมตายมาด้วยกัน ปราบประชาชนมาด้วยกันและทำรัฐประหารมาด้วยกัน แถมยังมีผลประโยชน์ร่วมกันมหาศาล จะไปคิดว่าเขาจะแตกกันขาดกันคงไม่ใช่เรื่องง่ายนัก ถึงทีคับขันเขาก็จับมือกันได้และหมายถึงเขามีแต้มต่อถึง 250 เสียงอยู่ในมือ

เพราะฉะนั้นฝ่ายประชาธิปไตยทั้งพรรคการเมืองและองค์กรประชาชนจะประเมิน พล.อ.ประยุทธ์ต่ำไม่ได้ ยังต้องพยายามอีกมากเพื่อให้อย่างน้อยได้เสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎรให้ได้เสียก่อน จึงจะสามารถปิดทางการตั้งรัฐบาลที่อาศัย ส.ว. เป็นกำลังหลักอย่างการตั้งรัฐบาลครั้งที่แล้ว