ไม่พบผลการค้นหา
'ชัชชาติ' เสนอนโยบาย 'ผู้ว่าฯเที่ยงคืน' พลิกโฉม กทม. กระตุ้นท่องเที่ยวภาคกลางคืน บนฐานคิดเอาใจเขา-มาใส่ใจเรา ยันไม่หวงไอเดียยืนปราศรัยบนลังไม้ เชื่อใครทำเพื่อประชาชนดีเสมอ

ที่ตลาดพรานนก ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้สมัครผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร อิสระ เบอร์ 8 ลงพื้นที่พบปะประชาชนภายในตลาดและชุมชนรอบสะพานพระราม 8 รับฟังปัญหาปากท้อง และการบริหารจัดการพื้นที่การค้าโซนตลาดวังหลังและใกล้เคียง 

ชัชชาติ กล่าวว่า วันนี้มาลงพื้นที่หลายตลาด อาทิ ตลาดศาลาน้ำร้อน ตลาดบางกอกน้อย ตลาดพรานนก ตลาดวังหลัง เพราะตลาดคือหัวใจสำคัญของเศรษฐกิจ ทุกวันนี้ แม้ตลาดจะยังคึกคักอยู่ แต่ประชาชนเดือดร้อนจากปัญหาสินค้าราคาแพงขึ้น ดังนั้น กทม. สามารถเข้ามาช่วยลดค่าใช้จ่ายได้ ด้วยการให้บริการด้านอื่นๆ เพื่อไม่ให้มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม เช่น สนับสนุนค่าใช้จ่ายด้านการศึกษา เป็นต้น

NAT_2338.jpg

สำหรับตลาดในพื้นที่ กทม.ที่มีราว 13 แห่ง มีผู้ค้าราว 20,000 แผง ก็ต้องมีการบริหารจัดการที่ดี โดย ชัชชาติ ได้ยกตัวอย่างตลาดศาลาน้ำร้อน ที่เปิดบริการตั้งแต่เที่ยงคืน เพื่อชี้ให้เห็นว่า เศรษฐกิจหลายๆ ส่วนของ กทม.เกิดขึ้นในช่วงเวลากลางคืน ไม่ว่าจะ อาหาร ท่องเที่ยว หรือ การพักผ่อนหลังเวลาเลิกงาน โดยในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ผ่านมา ชัชชาติ ได้ฟังเสียงผู้ประกอบการหลายรายสะท้อนว่า ภาครัฐไม่ค่อยเข้ามาดูแลภาคธุรกิจกลางคืนมากเท่าที่ควร 

ดังนั้น ผู้ว่าฯกทม. ในอนาคตต้องเข้ามาดูแลธุรกิจ การเดินทาง ความปลอดภัย ยามค่ำคืนให้มากขึ้น จึงเป็นที่มาของนโยบาย “ผู้ว่าฯเที่ยงคืน” โดยต้องเข้ามาดูแลเรื่องไฟส่องสว่าง การคมนาคม ห้องน้ำสาธารณะ ธุรกิจบันเทิงต่างๆ พลิกโฉมกทม.ให้สวยงาม กระตุ้นการท่องเที่ยวในช่วงกลางคืนให้มากขึ้น ขยายเวลาการใช้ชีวิตของคน กทม. พร้อมช่วยลดปัญหารถติดได้ด้วย ซึ่งเป็นนโยบายที่สามารถทำได้ทันที เริ่มต้นด้วยการปรับวิธีคิด ไม่ต้องลงทุนอะไรมากมาย “เพียงแค่เอาใจของคนกลางคืน มาใส่ใจเรา”

NAT_2356.jpg

เมื่อถามถึงแนวคิดการยืนปราศรัยนโยบายบนลังไม้ขนาดเล็ก ชัชชาติ กล่าวว่า การลงพื้นที่แต่ละครั้ง ประชาชนจะเห็นเพียงใบหน้าผู้สมัคร แต่เมื่อยืนปราศรัยก็จะทำให้มองเห็นประชาชนในวงกว้างได้กว่าเดิม ถือเป็นการใช้พื้นที่ให้มีประสิธิภาพมากขึ้น และเนื่องจากว่าตนเป็นผู้สมัครอิสระ ไม่ได้มีฐานเสียง การปราศรัยบนเวทีใหญ่คงไม่ตอบโจทย์เท่าไหร่ เชื่อว่าจัดเป็นการปราศรัยย่อยแบบดาวกระจายคงจะดีกว่า สอดคล้องกับนโยบายเส้นเลือดฝอย ช่วยให้สื่อสารถึงปัญหาประจำแต่ละพื้นที่ได้ตรงจุดมากขึ้น คิดว่า แนวคิดปราศรัยบนลังไม้แบบนี้อาจจะมีผู้สมัครคนอื่นเริ่มต้นทำไปแล้วก็ได้ หากใครจะทำตามก็ดี อะไรที่เป็นผลประโยชน์ประชาชนก็ดี ไม่ขัดข้องอะไร