วันที่ 19 ก.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานจากรัฐสภาว่า ผลการลงมติของที่ประชุมร่วมกันของรัฐสภา ในการตีความข้อบังคับที่ 41 ว่าการเสนอชื่อ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นบุคคลผู้สมควรได้รับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ถือเป็นญัตติที่ไม่สามารถเสนอซ้ำได้อีกในสมัยประชุมนี้หรือไม่

ผลการประชุมเผยว่า สมาชิกจาก 8 พรรคการเมืองร่วมจัดตั้งรัฐบาลเกือบทุกพรรค ประกอบด้วย พรรคก้าวไกล พรรคเพื่อไทย พรรคประชาชาติ พรรคไทยสร้างไทย พรรคเพื่อไทรวมพลัง พรรคเป็นธรรม และพรรคพลังสังคมใหม่ ร่วมเทคะแนนเสียงโหวต 'ไม่เห็นด้วย' คือมองว่าสามารถเสนอชื่อ พิธา ซ้ำได้อีก

ขณะที่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย 1 เสียง ไม่ได้ร่วมลงมติ ประกอบกับ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ถูกศาลรัฐธรรมนูญสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ ส.ส. ทำให้ไม่สามารถลงมติได้ และ วันมูหะมัดนอร์ มะทา ทำหน้าที่เป็นประธานในการประชุม จึงต้องงดออกเสียง เพื่อวางตัวเป็นกลางในการประชุม ทำให้เสียงของ 8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาลหายไปสองเสียง เหลือ 309 เสียง โดยมี ส.ว. 8 คน มาร่วมโหวตเพิ่มเป็น 317 เสียง

สำหรับรายชื่อที่มองว่าสามารถเสนอชื่อพิธาซ้ำได้ มีทั้งหมด 8 คน ประกอบด้วย

• ไกรสิทธิ์ ตันติศิรินทร์
• พลตำรวจโทณัฏฐวัฒก์ รอดบางยาง
• เฉลา พวงมาลัย
• ซากีย์ พิทักษ์คุมพล
• ประภาศรี สุฉันทบุตร
• พิศาล มาณวพัฒน์
• มณเฑียร บุญตัน
• วุฒิพันธุ์ วิชัยรัตน์

ขณะที่ ส.ว. ซึ่งงดออกเสียง 8 คน ประกอบด้วย

• กิตติ วะสีนนท์
• ขวัญชาติ วงศ์ศุภรานันต์
• พรเพชร วิชิตชลชัย
• พีระศักดิ์ พอจิต
• สมพล เกียรติไพบูลย์
• อำพล จินดาวัฒนะ

ขณะที่ ส.ว. ไม่ลงคะแนนเสียง 1 คน คือ วีระศักดิ์ โควสุรัตน์ ทั้งนี้ เป็นที่สังเกตว่า ส.ว.ซึ่งเห็นควรให้เสนอชื่อ พิธา ได้อีกครั้ง มีจำนวนลดลงไปจากจำนวน ส.ว. 13 คน ที่เคยโหวตเห็นชอบให้ พิธา โดย ส.ว. กลุ่มดังกล่าวที่เปลี่ยนไปลงมติคว่ำ พิธา ประกอบด้วย 

• พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา
• วันชัย สอนศิริ

ส่วน สุรเดช จิรัฐิติเจริญ ไม่ได้ลงมติ