ไม่พบผลการค้นหา
ม.หอการค้าไทย เผย ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเริ่มฟื้นตัว แต่ยังอยู่ในเกณฑ์น่าเป็นห่วง ขณะที่ดัชนีความคิดเห็นเกี่ยวกับสถานการณ์ทางการเมือง ตกต่ำสุดในรอบ 171 เดือน เหตุคนเห็นการเมืองไร้เสถียรภาพ

ธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีและประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยผลการสำรวจความเชื่อมั่นของผู้บริโภคในเดือน พ.ย. 2563 ว่าปรับดีขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 และปรับตัวอยู่ในระดับสูงสุดในรอบ 9 เดือน นับตั้งแต่เดือน มี.ค. 2564 เป็นต้นมา

โดยค่าดัชนีอยู่ที่ระดับ 52.4 ซึ่งปัจจัยที่ทำให้ความเชื่อมั่นผู้บริโภคเริ่มกลับมาฟื้นตัว เป็นผลจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลโดยเฉพาะโครงการ ‘คนละครึ่ง’ และราคาพืชผลทางการเกษตรหลายรายการปรับตัวดีขึ้น โดยเฉพาะข้าว ยางพารา และปาล์มน้ำมัน

อย่างไรก็ตาม ธนวรรธน์ ชี้ว่าแม้ว่าความเชื่อมั่นผู้บริโภคจะปรับตัวดีขึ้น แต่หากดูในค่าดัชนีภาพรวม ทั้งดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคในปัจจุบัน อนาคต ดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับเศรษฐกิจโดยรวม โอกาสในการหางานทำ รายได้ในอนาคต ค่าดัชนีทุกรายการอยู่ในระดับต่ำกว่า 100 สะท้อนให้เห็นว่าผู้บริโภคยังคงเห็นว่าสถานการณ์เศรษฐกิจโดยรวมยังคงย่ำแย่จากปัญหาการเมืองในประเทศและวิกฤตโควิด-19 ทั่วโลก ซึ่งส่งผลกระทบในเชิงลบอย่างมากต่อกำลังซื้อภายในประเทศ ภาคการท่องเที่ยว ภาคการส่งออก และธุรกิจโดยรวม

"ส่วนดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับสถานการณ์ทางการเมือง ยังคงปรับตัวลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 โดยปรับตัวลงมาอยู่ในระดับ 23.0 ซึ่งนับเป็นการต่ำสุดในรอบ 171 เดือน หรือ 14 ปี 3 เดือน โดยผู้บริโภคกว่า 76.5% เห็นว่าสถานการณ์ทางการเมืองอยู่ในระดับแย่ ขาดสเถียรภาพ และเห็นว่าสถานการณ์ทางการเมืองของประเทศไทยมีเสถียรภาพน้อยลงในอนาคตด้วย" ประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์ฯ ระบุ