วิโดโดจะเข้าร่วมการประชุม G7 ในเยอรมนีระหว่างวันที่ 26 ถึง 27 มิ.ย. และหลังจากการประชุมแล้วเสร็จ ประธานาธิบดีอินโดนีเซียจะเดินทางเยือนกรุงเคียฟ เพื่อเข้าพบกับเซเลนสกีต่อในทันที “ภารกิจคือการขอร้อง… ประธานาธิบดีเซเลนสกี เพื่อให้เปิดเวทีสนทนาเพื่อสันติภาพ สร้างสันติภาพ เพราะสงครามจะต้องหยุดลง” วิโดโดกล่าวกับสื่ออินโดนีเซีย
วิโดโดกล่าวถึงการเตรียมจะเข้าพบกับเซเลนสกีว่า สายพานการผลิตอาหาร “จำเป็นจะต้องกลับมาเคลื่อนตัวอีกครั้ง” และหลังจากการเจรจาจากกรุงเคียฟแล้วเสร็จ วิโดโดจะเดินทางต่อจากกรุงเคียฟไปยังกรุงมอสโก เพื่อเข้าพบกับปูตินต่อในวันที่ 30 มิ.ย.นี้
“ในภารกิจเดียวกันนี้ ผมจะร้องขอประธานาธิบดีปูตินเพื่อให้เปิดบทสนทนา และหยุดยิงในทันที และหยุดสงครามลง” วิโดโดระบุ โดยก่อนหน้านี้ในเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา ประธานาธิบดีอินโดนีเซียระบุว่าตนได้ต่อสายโทรศัพท์หาประธานาธิบดียูเครน และกล่าวเชิญให้เซเลนสกีเดินทางมาเข้าร่วมการประชุมสุดยอดผู้นำ G20 ในบาหลี ช่วงเดือน พ.ย.ที่จะถึงนี้ ในฐานะแขกรับเชิญ
อินโดนีเซียหมุนเวียนมาเป็นประธานการประชุม G20 ในปีนี้ ท่ามกลางการกดดันจากโลกตะวันตก ที่นำโดยสหรัฐฯ ซึ่งพยายามเรียกร้องให้ขับรัสเซียออกจากการเข้าร่วมการประชุม G20 ในปีเดียวกันนี้เอง อย่างไรก็ดี วิโดโดไม่ได้ยกเลิกคำเชิญปูตินในการเข้าร่วมการประชุม G20 แต่อย่างใด พร้อมระบุว่า ปูตินแสดงออกว่ามีความตั้งใจที่จะเดินทางมาเข้าร่วมการประชุมที่จะจัดขึ้นในช่วงเดือน พ.ย.นี้
อินโดนีเซียเป็นหนึ่งในประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ ที่วางท่าทีเป็นกลางท่ามกลางความขัดแย้งสงครามยูเครนของรัสเซีย อย่างไรก็ดี อินโดนีเซียพยายามออกมาเรียกร้องให้ทั้งสองชาติหาทางออกจากความขัดแย้งที่กินเวลามายาวนานหลายเดือน ทั้งนี้ วิโดโดปฏิเสธที่จะส่งอาวุธไปช่วยยูเครนตามคำร้องขอของเซเลนสกี และอินโดนีเซียจัดส่งเพียงแค่ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมไปยังยูเครนเท่านั้น
หลังจากเสร็จสิ้นภารกิจในยุโรปแล้ว วิโดโดจะเดินทางต่อไปยังสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ก่อนที่จะเดินทางกลับอินโดนีเซีย
ที่มา: