ไม่พบผลการค้นหา
โวโลดีเมอร์ เซเลนสกี ประธานาธิบดียูเครน กล่าวหารัสเซียว่า "เล่นกับชีวิตของเชลยยูเครน" หลังเหตุเครื่องบินตกเมื่อวันพุธ (24 ม.ค.) ในภูมิภาคเบลโกรอดทางพื้นที่ตะวันตกของรัสเซียใกล้ชายแดนยูเครน พร้อมเรียกร้องให้มีการสอบสวนระหว่างประเทศ

ทางการรัสเซียระบุว่า ไม่มีผู้รอดชีวิตหลังจากยูเครนยิงเครื่องบิน Il-76 ตก โดยภายในมีเชลยศึกชาวยูเครนซึ่งกำลังถูกนำตัวไปแลกเปลี่ยนนักโทษ 65 คน พร้อมกับลูกเรือรัสเซีย 6 คน และผู้ติดตามอีก 3 คน อย่างไรก็ดี หน่วยข่าวกรองทหารของยูเครนกล่าวว่า ไม่ได้รับคำสั่งให้ดูแลน่านฟ้าที่ปลอดภัยเหมือนครั้งก่อนหน้า

2024-01-24T135257Z_1590592543_RC2CO5AHRWNO_RTRMADP_3_UKRAINE-CRISIS-BELGOROD-AIRPLANE-KNOWNS.JPG

หลังจากเหตุเครื่องบินตก เซเลนสกีแถลงเมื่อค่ำวันพุธว่า “ชัดเจนว่ารัสเซียกำลังเล่นกับชีวิตของนักโทษยูเครน กับความรู้สึกของญาติของพวกเขา และกับอารมณ์ความรู้สึกของสังคมของเรา” พร้อมกันนี้ ประธานาธิบดียูเครนเน้นย้ำว่า “จะต้องมีการทำให้ข้อเท็จจริงเป็นที่กระจ่างทั้งหมด”

การออกมาให้ความเห็นโดยหน่วยข่าวกรองทหารของยูเครน ถูกมองว่าเป็นการรับทราบไปโดยปริยายว่าพวกเขาได้ยิงเครื่องบินขนส่งทางทหารของรัสเซียตก แม้ว่าหน่วยข่าวกรองทางทหารยูเครนจะเน้นย้ำว่าไม่มีข้อมูลที่เชื่อถือได้ว่าใครอยู่บนเครื่องบ้าง

วิดีโอที่แชร์บนโซเชียลมีเดียเผยให้เห็นเครื่องบินลำหนึ่งตก ตามมาด้วยการระเบิดและลูกไฟใกล้กับหมู่บ้านยาโบลโนโว ซึ่งตั้งอยู่ห่างจากเมืองเบลโกรอดไปทางตะวันออกเฉียงเหนือ 70 กิโลเมตร โดยเหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 11.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น

เวียเชสลาฟ กลาดคอฟ ผู้ว่าการภูมิภาคเบลโกรอด กล่าวว่าเครื่องบินลำดังกล่าวตกในสนามใกล้ย่านที่อยู่อาศัย และทุกคนบนเครื่องบินล้วนเสียชีวิตทั้งหมด

เว็บไซต์ Ukrainska Pravda รายงานอ้างคำพูดของเจ้าหน้าที่ทั่วไปของยูเครนซึ่งกล่าวในตอนแรกว่า เครื่องบินลำดังกล่าวกำลังขนส่งขีปนาวุธสำหรับระบบป้องกันภัยทางอากาศ S-300 ของรัสเซีย โดยรายงานดังกล่าวมันไม่ได้กล่าวถึงการมีเชลยศึกอยู่บนเครื่องบิน

ไม่มีรายละเอียดใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับสิ่งที่อยู่บนเครื่องสามารถตรวจสอบได้โดยอิสระ แต่หน่วยข่าวกรองทางทหารของยูเครนกล่าวว่า เหตุดังกล่าวเป็นความรับผิดชอบของรัสเซีย "ที่จะต้องรับรองความปลอดภัยของผู้พิทักษ์ของเราภายใต้ข้อตกลงที่ได้บรรลุ" ทางการยูเครนยังระบุด้วยว่า พวกเขาไม่ได้รับแจ้งว่ามีความจำเป็นใดๆ ที่ยูเครนจะต้องปกป้องน่านฟ้า "ตามเวลาที่กำหนด ซึ่งเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นหลายครั้งก่อนหน้านี้"

“สิ่งนี้สามารถชี้ให้เห็นถึงการกระทำโดยเจตนาของรัสเซีย ที่มีจุดมุ่งหมายเพื่อทำให้ชีวิตและความปลอดภัยของเชลยศึกตกอยู่ภายใต้ภัยคุกคาม” แถลงการณ์ระบุเสริม

ทั้งนี้ ยูเครนและรัสเซียมีส่วนร่วมในการแลกเปลี่ยนนักโทษหลายครั้งนับตั้งแต่เริ่มสงคราม 

ก่อนแผนการแลกเปลี่ยนนักโทษ เจ้าหน้าที่ยูเครนกล่าวว่าทหารรัสเซียที่ถูกจับได้ "ถูกส่งตัวไปยังสถานที่ที่ตกลงไว้ทันเวลาเพื่อแลกเปลี่ยน และพวกเขาก็ปลอดภัยที่นั่น" ในขณะที่กระทรวงกลาโหมรัสเซียกล่าวว่าการแลกเปลี่ยนตัวเลชยสงครามมีกำหนดเกิดขึ้นในช่วงบ่ายวันพุธ ที่จุดตรวจชายแดนซึ่งอยู่ห่างจากเบลโกรอดไปทางตะวันตก 100 กิโลเมตร

กระทรวงกลาโหมรัสเซียกล่าวว่าเครื่องบินขนส่งทางทหารลำหนึ่งได้บินขึ้นจากฐานทัพอากาศชคาลอฟสกี้ทางตะวันออกเฉียงเหนือของกรุงมอสโก ระหว่างทางไปเบลโกรอด พร้อมกันนี้ กลาโหมรัสเซียกล่าวหาว่ากองทัพอากาศยูเครนได้ยิงขีปนาวุธต่อต้านอากาศยาน 2 ลูกจากพื้นที่ลิปซีทางใต้ของชายแดนยูเครน

หน่วยงานรัฐบาลยูเครนที่รับผิดชอบด้านเชลยศึกกล่าวเตือนว่า รัสเซีย "กำลังดำเนินการปฏิบัติการด้านข้อมูลพิเศษเพื่อต่อต้านยูเครนอย่างแข็งขัน ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อทำให้สังคมยูเครนไม่มั่นคง" ในขณะที่ ดีมีโตร ลูบิเนตส์ กรรมการสิทธิมนุษยชนในรัฐสภาของยูเครน เรียกร้องให้ชาวยูเครนเชื่อถือเฉพาะแหล่งข้อมูลที่เป็นทางการเท่านั้น "อย่าหลงกลโดยการยั่วยุ เราจะให้รายละเอียดเพิ่มเติมในภายหลัง"

อังเดร คาร์ตาโปลอฟ ประธานคณะกรรมการกลาโหมรัฐสภาของรัสเซีย กล่าวอ้างว่ามีเครื่องบินลำที่สองที่ขนส่งนักโทษชาวยูเครน 80 คนขึ้นไปทางอากาศ แม้ว่าเครื่องบินลำนั้นจะเปลี่ยนเส้นทางแล้วก็ตาม “ขณะนี้ ไม่มีการพูดถึงการแลกเปลี่ยน (เชลยศึก) อื่นใดอีก” คาร์ตาโปลอฟ ระบุกับสถานีโทรทัศน์รัสเซีย

ก่อนหน้านี้ มีการแลกเปลี่ยนนักโทษครั้งใหญ่ที่สุด นับตั้งแต่เริ่มสงครามเกิดขึ้นเมื่อต้นเดือนนี้ โดยยูเครนทำการปล่อยตัวเชลยศึกชาวรัสเซีย 248 คน และรัสเซียปล่อยตัวเชลยยูเครน 230 คน จากข้อตกลงที่สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์เป็นตัวกลางในการเจรจาไกล่เกลี่ย

ปัจจุบันนี้ มีชาวยูเครนมากกว่า 8,000 คน ซึ่งเป็นทั้งพลเรือนและทหาร ยังคงถูกรัสเซียควบคุมตัวอยู่ ตามรายงานของกองบัญชาการประสานงานด้านการปฏิบัติต่อเชลยสงครามของยูเครน ซึ่งรายงานยังระบุอีกว่า ยังมีชาวยูเครนอีกหลายหมื่นคนที่ยังคงสูญหาย

ในเบลโกรอด ซึ่งอยู่ห่างจากชายแดนยูเครนไปทางตอนเหนือประมาณ 40 กิโลเมตร มีรายงานความเสียหายรุนแรงกว่าหลายสิบครั้ง จากการโจมตีทางอากาศและโดรน นับตั้งแต่สงครามในยูเครนเริ่มต้นขึ้น โดยเมื่อเดือน ธ.ค.ที่ผ่านมา มีผู้เสียชีวิต 25 รายและบาดเจ็บ 100 รายหลังการโจมตีทางอากาศ แม้ว่ายูเครนจะยืนกรานว่ามีเพียงโครงสร้างพื้นฐานทางทหารเท่านั้นที่ถูกกำหนดเป็นเป้าหมายการโจมตี ก่อนจะกล่าวโทษระบบการป้องกันทางอากาศของรัสเซีย ที่เป็นต้นเหตุในการยิงจนมีชิ้นส่วนต่างๆ ตกลงมาใส่เมือง

ปัจจุบันนี้ สงครามรัสเซียในยูเครนกำลังเข้าสู่ปีที่สาม

เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว รัสเซียอ้างว่าพวกเขาสามารถเข้ายึดหมู่บ้านแห่งหนึ่งใกล้กับเมืองบักมุตห์ ในภูมิภาคโดเนตสก์ทางตะวันออกของยูเครน ในขณะที่ยูเครนไม่ได้ออกมายืนยันรายงานดังกล่าว

ขณะเดียวกัน การโจมตีทางอากาศของรัสเซียได้ทวีความรุนแรงมากขึ้นในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา โดยเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา (23 ม.ค.) มีผู้เสียชีวิต 18 รายและบาดเจ็บ 130 รายจากการโจมตีด้วยขีปนาวุธใส่เมืองต่างๆ ของยูเครน

รุสเตม อูเมรอฟ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมยูเครน ออกมาเตือนว่าในขณะที่กองกำลังยูเครนกำลังประสบปัญหาขาดแคลนกระสุน แต่รัสเซียได้ใช้ขีปนาวุธมากกว่า 600 ลูกและโดรนมากกว่า 1,000 ลำในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา ทั้งนี้ ยูเครนกำลังต่อสู้โดยใช้โดรนเป็นส่วนใหญ่ โดยเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา การโจมตีด้วยโดรนทำให้เกิดการระเบิดที่คลังส่งออกก๊าซรายใหญ่ใกล้กับเมืองเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก


ที่มา:

https://www.bbc.com/news/world-europe-68083739?fbclid=IwAR0TzOh7q45pZKRYsWzT0QxF6REdHNi-3-gXgThrBytMC_EXXi_n99naEQM