ไม่พบผลการค้นหา
โวโลดีเมอร์ เซเลนสกี ประธานาธิบดียูเครน ออกมาระบุว่า ทีมสืบสวนสอบสวนพบการก่ออาชญากรรมกว่า 400 คดีในพื้นที่เคอร์ซอน ซึ่งถูกกองทัพรัสเซียทิ้งเอาไว้ ภายหลังจากการถอนทัพของรัสเซียเมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ในขณะที่กองทัพยูเครนรุดหน้ายึดคืนพื้นที่จำนวนมากกลับมาเป็นของตนอีกครั้ง

เซเลนสกีระบุว่า ทางการยูเครนพบร่างของประชาชนและทหารจำนวนมาก อย่างไรก็ดี สำนักข่าว BBC ระบุว่าตนไม่สามารถยืนยันรายงานดังกล่าวของประธานาธิบดียูเครนได้ ในขณะที่ทางการรัสเซียออกมาปฏิเสธว่า พวกตนไม่มีการโจมตีใส่เป้าหมายที่เป็นพลเรือนอย่างจงใจ

ในขณะเดียวกัน ทางการยูเครนได้ประกาศเคอร์ฟิวข้ามคืน และจำกัดการเดินทางเข้าและออกจากพื้นที่เคอร์ซอน “ในภูมิภาคเคอร์ซอน กองทัพรัสเซียได้ละทิ้งความโหดร้ายแบบเดียวกับในภูมิภาคอื่นๆ ในประเทศของเรา ที่ซึ่งมันสามารถเข้าไปได้” เซเลนสกีกล่าวในการแถลงเมื่อช่วงกลางคืนทีผ่านมา (13 พ.ย.) “เราจะค้นหาและนำฆาตกรทุกคนมาสู่ความยุติธรรมอย่างไม่ต้องสงสัย” ประธานาธิบดียูเครนย้ำ

นับตั้งแต่สงครามยูเครนปะทุขึ้นเมื่อ 24 ก.พ.ที่ผ่านมา มีการค้นพบหลุมศพจำนวนมากในพื้นที่ต่างๆ เช่น เมืองบูชา อีเซียม และมารีอูปอล ทางการยูเครนยังได้ออกมากล่าวหากองทหารรัสเซียว่าอยู่เบื้องหลังความโหดร้ายทารุณดังกล่าว 

เมื่อเดือนที่แล้ว คณะกรรมาธิการของสหประชาชาติออกมากล่าวว่า มีอาชญากรรมสงครามเกิดขึ้นในยูเครนจริง และกองกำลังรัสเซียมีส่วนรับผิดชอบต่อการละเมิดสิทธิมนุษยชน ในกรณี “ส่วนใหญ่” ที่เกิดขึ้นในช่วงเริ่มต้นการรุกรานยูเครนโดยรัสเซีย

เคอร์ซอนเป็นเมืองหลักแห่งเดียวในภูมิภาคต่างๆ ของยูเครน ที่รัสเซียเข้ายึดครองสำเร็จตั้งแต่การรุกรานยูเครนในเดือน ก.พ.ที่ผ่านมา ก่อนที่ วลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย จะได้ออกมาประกาศรับรองว่า ภูมิภาคเตอร์ซอน และภูมิภาคอื่นๆ อีก 3 แห่ง ได้แก่ โดเนตสก์ ลูฮานสก์ และซาปอริซเซีย ได้รับการผนวกให้เป็นส่วนหนึ่งของรัสเซีย อย่างไรก็ดี เคอร์ซอนได้รับการปลดปล่อยโดยกองทหารยูเครนเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (11 พ.ย.) ท่ามกลางการต้อนรับจากฝูงชนชาวยูเครน ซึ่งออกมาโบกธงทักทายทหารยูเครน

เจ้าหน้าที่จากทางการยูเครน ได้กลับเข้าไปไปบริหารงานในพื้นที่ของเคอร์ซอนแล้ว หลังจากการล่าถอยของทหารรัสเซียประมาณ 30,000 นายออกนอกพื้นที่ดังกล่าว ทั้งนี้ ยูเครนมองว่าการกลับเข้ามายึดครองเคอร์ซอนเป็นของตนอีกครั้ง นับเป็นชัยชนะระดับชาติที่สำคัญ และเป็นความอัปยศอดสูของรัสเซียอย่างรุนแรง เทียบเท่ากับการที่รัสเซียต้องล่าถอยออกนอกรอบกรุงเคียฟในเดือน มี.ค.ที่ผ่านมา

ปัจจุบันนี้ ยังมีความหวาดกลัวว่าทหารรัสเซียบางส่วนอาจซ่อนตัวอยู่ในพื้นที่ ในขณะที่ผู้ที่ให้ความช่วยเหลือรัสเซียในเคอร์ซอน ระหว่างการถูกยึดครอง อาจถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย ทั้งนี้ กองกำลังยูเครนกำลังทำการฟื้นฟูการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตและโทรทัศน์ ในขณะที่ไฟฟ้าและน้ำประปาจะได้รับการแก้ไข "โดยเร็วที่สุด" เซเลนสกีกล่าว

ยังมีความกังวลอีกว่ากองทหารรัสเซีย ซึ่งกำลังถอยร่นไปยังฝั่งตรงข้ามของแม่น้ำดนีโปร อาจเริ่มทำการระดมยิงมายังฝั่งตะวันตกที่ยูเครนกลับเข้ามายึดครองคืนได้อีกครั้ง โดยเจ้าหน้าที่ประจำพื้นที่เคอร์ซอนได้สั่งห้ามการใช้การขนส่งทางน้ำ ตั้งแต่วันที่ 13 ถึง 19 พ.ย. ในขณะที่มีระเบิดของรัสเซียถูกวางเอาไว้เกลื่อนพื้นที่ ทางการยูเครนยังออกคำเตือนให้ประชาชนที่ลี้ภัยออกนอกพื้นที่ไปว่า อย่าเพิ่งกลับบ้านของตนจนกว่าบ้านของพวกเขาจะได้รับการตรวจสอบเพื่อหาทุ่นระเบิดหรือกับดักก่อน

ยาโรสลาฟ ยานูเชวิช ผู้ว่าการเคอร์ซอน ได้บอกประชาชนให้หลีกเลี่ยงสถานที่แออัด และอยู่ห่างจากใจกลางเมืองในวันจันทร์นี้ (14 พ.ย.) เนื่องจากกองทัพจะทำการถอนทุ่นระเบิดในพื้นที่ ทั้งนี้ ทางการประกาศเคอร์ฟิวข้ามคืน ซึ่งจะเริ่มบังคับใช้ตั้งแต่เวลา 17:00 น. ถึง 08:00 น.


ที่มา:

https://www.bbc.com/news/world-europe-63619280?fbclid=IwAR0ZWyHFneeqGJ8BngWLZaKJ87Vj2MIzVMHSUr2Rl9bamGmpLfd7SbHXdLo