วันที่ 11 ก.ค. 2566 ธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีในฐานรองหัวหน้าพรรค ระบุว่า ไม่กลัวกลุ่มผู้ชุมนุม ที่จะเคลื่อนมากดดันการเลือกนายกรัฐมนตรีในวันพรุ่งนี้ แต่ไม่อยากให้มีการเคลื่อนไหวในลักษณะดังกล่าว ที่ถือเป็นการปลุกระดม และใช้มวลชนมากดดันกลุ่ม ส.ส. และ สว. ซึ่งต้องยอมรับว่ามวลชนมีทั้งสองฝั่ง ตนได้พยายามบอกกลุ่มที่สนับสนุนฝั่งรัฐบาลเก่า ว่าอย่าออกมาเคลื่อนไหวสนับสนุน เพราะไม่เกิดประโยชน์และการที่ออกมา หลายฝ่ายนั้นน่าหนักใจ เพราะอาจเกิดเหตุที่คาดไม่ถึงได้ 

อย่างไรก็ตามการเลือกนายกรัฐมนตรี อยากให้เป็นไปตามระบบประชาธิปไตย เลือกตามขั้นตอน ไม่อยากเห็นบรรยากาศการปลุกระดม ไม่ว่าจะเป็นพรรคไหนก็ตาม เพราะบ้านเมืองสงบมานาน ไม่อยากให้กลับไปสู่ความขัดแย้งอีก 

เมื่อถามว่า อาจจะมีม็อบอีกฝ่ายออกมาเคลื่อนไหวด้วยใช่หรือไม่ ธนกร กล่าวว่า ไม่ได้มองว่าจะมีม็อบอีกฝ่ายออกมา แต่ยอมรับว่าคนที่ชื่นชอบแต่ละพรรคการเมืองมีอยู่แล้ว ชอบ พล.อ.ประยุทธ์ ก็มาก จึงไม่อยากให้เกิดบรรยากาศของความขัดแย้ง แต่หากจะมีการชุมนุมก็ขอให้ถูกต้องตามกฎหมาย อยู่ในพื้นที่ที่จัดไว้ ไม่ควรไปเคลื่อนไหวในพื้นที่ที่จะเกิดปัญหา

เมื่อถามถึง การโหวตนายกรัฐมนตรีของพรรครวมไทยสร้างชาติ ธนกร ย้ำว่า วันนี้จะมีการประชุมพรรค ซึ่งมีความชัดเจน ว่าจะไม่เสนอแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรครวมไทยสร้างชาติ ตามที่หัวหน้าพรรคได้ชี้แจงไปก่อนหน้านี้ ส่วนพรรคร่วมรัฐบาลจะหารือนอกรอบหรือไม่นั้นตนไม่ทราบ แต่อาจจะมีคุยกันก่อน เพราะทุกพรรคคุยได้อยู่แล้ว ซึ่งกลไกต่างๆ ได้เดือนหน้าไปแล้ว

เมื่อถามว่า มองอย่างไรกับการที่นักวิชาการออกมาชี้นำกดดันให้ ส.ส. และสว. โหวตเลือกนายกรัฐมนตรี ธนกร กล่าวว่า ส.ว.เป็นผู้ใหญ่ไม่จำเป็นต้องชี้นำท่าน ซึ่งทราบมาว่า จะให้ว่าที่นายกรัฐมนตรีได้แสดงวิสัยทัศน์ ตนมองว่า ตลอดระยะเวลาที่เลือกตั้ง ประชาชนรู้อยู่แล้ว ว่าแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของแต่ละพรรคเป็นอย่างไร ดังนั้นไม่ควรใช้เวลาเยอะ ครั้งแรกก็ควรจะได้แล้ว หากไม่ได้ก็ควรที่จะเปิดโอกาส ให้พรรคอันดับสองจัดตั้งรัฐบาลไป และหากพรรคอันดับสองจัดตั้งไม่ได้ ก็ให้พรรคอันดับสาม หรือ จะมีองค์ประกอบและเงื่อนไขแบบใหม่ก็ว่ากัน ไม่ควรใช้เวลานาน

เมื่อถามย้ำว่า หากครั้งแรก พิธา ไม่ได้รับเลือก พรรครวมไทยสร้างชาติ จะเสนอญัตติคัดค้านต่อสภาหรือไม่ ธรกร กล่าวว่า ขอดูหน้างาน เพราะตนมองว่า ไม่มีสิ่งไหนที่จะไปเปลี่ยนใจสมาชิกได้ภายในวันสองวัน ได้พิจารณามาตั้งแต่ช่วงก่อนเลือกตั้งแล้ว ดังนั้นกลไกลต่างๆ ได้เดินหน้าไปแล้ว อยากให้ทุกอย่างเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ต้องให้ ส.ว.โหวต และ ไม่ควรอ้างพี่น้องประชาชน เพราะประชาชนเลือกมาทุกพรรค