ประชาชนรัสเซียหลายพันคนเริ่มหนีออกนอกประเทศ หลังจากมีข่าวลือว่ารัสเซียจะเริ่มประกาศปิดพรมแดนในเวลาที่จะถึงนี้ เนื่องจากมีการนัดประชุมของสภาสหพันธรัฐ สภาสูงของรัสเซียในวันนี้ (4 มี.ค.) โดยการประชุมของสภาสหพันธรัฐมักเป็นสัญญาณการประกาศนโยบายต่างประเทศที่สำคัญของรัสเซียในแต่ละครั้ง โดยมติจากที่ประชุมล่าสุด คือการมอบอำนาจให้ วลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซียสั่งการรุกรานยูเครน
“เรื่องเหล่านี้ล้วนโกหก” ดีมิทรี เปสคอฟ โฆษกทำเนียบประธานาธิบดีรัสเซียออกมาปฏิเสธข่าวลือดังกล่าว “นี่ไม่ใช่อะไรเลยนอกจากเรื่องโกหกที่ถูกเผยแพร่บนโซเชียลเน็ตเวิร์ก ที่ประชาชนส่งต่อให้กันและกัน ทุกคนควรระวังในเรื่องข้อมูลข่าวสาร และไม่ตกเป็นเหยื่อของข่าวลือและข่าวปลอม”
ยังไม่มีการยืนยันว่ารัสเซียจะทำการประกาศกฏอัยการศึก ซึ่งรวมถึงมาตรการการปิดพรมแดนของตนเอง การเซ็นเซอร์ข้อมูลทางการทหาร และมาตรการในการควบคุมการเดินทางภายในประเทศ ซึ่งมีประชากรกว่า 140 ล้านคน โดยข่าวลือดังกล่าวถูกส่งต่อไปเรื่อยๆ ไม่เว้นแม้แต่ที่ปรึกษาของประธานาธิบดียูเครน อย่างไรก็ดี ไม่เคยมีข้อมูลดังกล่าวได้รับการประกาศออกมาจากทางรัฐบาลรัสเซีย
สถานการณ์ของรัสเซียยังคงตกอยู่ภายใต้แรงกดดันจากนานาชาติ จากการประกาศการคว่ำบาตรโดยหลายประเทศทั่วโลก รวมถึงการรุกรานยูเครนที่ถูกจับตาว่าทำได้ช้ากว่าที่คาดการณ์เอาไว้ ซึ่งอาจเป็นสัญญาณที่บ่งบอกว่ารัสเซียอาจไม่สามารถปฏิบัติการรุกรานยูเครนได้ตามแผนที่ตนวางไว้ ถึงแม้ว่าปูตินจะย้ำว่าทุกอย่างเป็นไปตามที่รัสเซียคาดการณ์เอาไว้
ทั้งนี้ รัฐสภาของรัสเซียได้ทำการเสนอร่างกฎหมายในการบังคับให้ประชาชนที่ออกมาต่อต้านการรุกรานยูเครน ถูกส่งออกไปรบยังภูมิภาคดอนบาสของยูเครนใน “ปฏิบัติการพิเศษ” นอกจากนี้ ยังมีแนวโน้มที่สูงที่ร่างกฎหมายในการลงโทษผู้ปล่อย “ข่าวปลอม” เกี่ยวกับกองทัพรัสเซียในยูเครน ที่จะผ่านการรับรองโดยรัฐสภารัสเซีย ทั้งนี้ กฎหมายดังกล่าวจะทำให้ผู้ที่เผยแพร่ข้อมูลที่เป็นลบต่อกองทัพรัสเซียอาจเผชิญหน้ากับโทษจำคุกถึง 15 ปี
ที่มา: