แชนแนลนิวส์เอเชียรายงานว่า นายดันยาล บาลาโกปาล อับดุลลาห์ ส.ส.เขตพอร์ทดิกสัน ได้ประกาศลาออกจากตำแหน่ง ทั้งนี้ เพื่อเปิดทางให้นายอันวาร์ อิมบราฮิม ได้ลงสมัครรับเลือกตั้งเป็น ส.ส. แทน เพื่อให้เขาได้กลับเข้าสู่การเป็นสมาชิกรัฐสภา 

ก่อนหน้านี้อันวาร์มีบทบาทอย่างสำคัญในการขับเคลื่อนทางการเมืองที่ทำให้น.พ.มหาเธร์ โมฮัมหมัดได้กลับมารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีในวัย 93 ปี คว้าชัยชนะที่ท่วมท้นในการเลือกตั้งทั่วไปเหนือกลุ่มของนายนาจิบ ราซัค อดีตนายกรัฐมนตรี 

สำนักข่าวบลูมเบอร์กระบุว่า สัญญาส่วนหนึ่งที่น.พ.มหาเธร์ให้ไว้กับประชาชนในช่วงการหาเสียงคือ เขาจะหลีกทางให้นายอันวาร์ได้เข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีแทนในเวลาหนึ่งหรือสองปี 

รอยเตอร์รายงานว่าในอดีต อันวาร์ เป็นสัญลักษณ์ของกลุ่มผลักดันการปฏิรูป เขาเคยเป็นรองนายกรัฐมนตรีในสมัยที่ น.พ.มหาเธร์ เป็นนายกรัฐมนตรี เขาเคยติดคุกถึง 2 ครั้ง เพราะมรสุมการเมืองจากการที่เป็นปรปักษ์กับมหาเธร์ แต่ทั้งคู่กลับมาจับมือเป็นพันธมิตรทางการเมืองกันอีกครั้ง เพื่อร่วมโค่นล้มนายนาจิบ หลังจากเขาได้รับพระราชทานอภัยโทษจากกษัตริย์มาเลเซีย

สื่อต่างๆ มักเรียกอันวาร์ในฐานะ "ว่าที่นายกรัฐมนตรี" ของมาเลเซีย ซึ่งเวลานี้เขาอยู่ในวัย 71 ปี เป็นหัวหน้าพรรคพีเพิลจัสติสปาร์ตี้ หรือ พีเคอาร์ ซึ่งเป็นพรรคที่ใหญ่ที่สุดในรัฐบาล ขณะที่ นางวันอาซิสซาห์ วันอิสมาอิล ภรรยาของอันวาร์ ตอนนี้ก็อยู่ในตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีในรัฐบาลของมหาเธร์ ซึ่งที่ผ่านมาได้มีการพิจารณาเส้นทางที่จะให้อันวาร์กลับเข้าสู่รัฐสภาด้วยการให้ ส.ส. คนใดคนหนึ่งของพรรคลาออก เพื่อเปิดทางให้เขาลงสมัครแทน

ความสำคัญของอันวาร์ อิบราฮิมนั้นเห็นได้จากการที่สื่อให้พื้นที่เขาแสดงความเห็นในเรื่องต่างๆ เกี่ยวกับการเมืองและการบริหารประหนึ่งเป็นผู้บริหารรัฐบาล ล่าสุด ซีเอ็นบีซี สัมภาษณ์พิเศษอันวาร์ในระหว่างที่เขาเข้าร่วมการสัมมนานักลงทุนที่ฮ่องกง โดยอันวาร์ให้ความมั่นใจกับนักลงทุนว่า มาเลเซียกำลังเดินไปในทิศทางที่ถูกต้อง นั่นคือปฎิรูประบบเพื่อให้มีธรรมาภิบาลและให้องค์กรอิสระไม่ถูกครอบงำ ให้มีหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายที่ไม่เข้าข้างใครและมีระบบศาลที่เป็นอิสระ

เขาเชื่อว่า หากปฎิรูประบบให้มีความโปร่งใส บวกกับการมีประชาธิปไตย นักลงทุนจะหวนกลับสู่มาเลเซียอย่างแน่นอน

อันวาร์แสดงความเชื่อมั่นไว้ว่า แม้ที่ผ่านมามาเลเซียจะเสียรังวัดไปบ้าง เพราะปัญหาการทุจริตและการครอบงำกระบวนการบริหารจากตัวอย่างที่เห็นได้ในการทุจริตเงินกองทุน 1เอ็มดีบี แต่เขาเชื่อว่า หากปฎิรูประบบให้มีความโปร่งใส บวกกับการมีประชาธิปไตย นักลงทุนจะหวนกลับสู่มาเลเซียอย่างแน่นอน

ส่วนหนี้สินก้อนใหญ่ในสัดส่วนร้อยละ 80 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมของประเทศนั้น เขาบอกว่าไม่น่าหนักใจมากนัก เพราะมาเลเซียยังไม่ถึงขั้นกลายเป็นรัฐที่ล้มเหลว และเชื่อว่าปัญหาคงจะไม่แย่ลงไปกว่านี้

แต่อันวาร์ อิบราฮิมจะทำงานอย่างไร โดยที่ไม่ขัดขากับมหาเธร์ ในฐานะที่เขาเป็นผู้นำอย่างเป็นทางการของกลุ่มพะคาตัน ฮาราปัน หรือกลุ่มสี่พรรคที่เป็นรัฐบาลในเวลานี้

อันวาร์ให้สัมภาษณ์กับซีเอ็นบีซีไว้ว่า หากเขาลงสมัครรับเลือกตั้งและได้กลับเข้าสู่รัฐสภา เขาจะให้ความสำคัญกับภารกิจอันแรกนั่นคือการปฎิรูปรัฐสภา เขาบอกกับบลูมเบิร์กว่า ในเวลานี้มหาเธร์เหมาะสมมากกว่าที่จะเป็นนายกรัฐมนตรี เพราะว่ามีความสามารถในการตัดสินใจในเรื่องยากๆ ได้ดีกว่า ส่วนการเน้นทำงานในรัฐสภาก็เพื่อจะเปิดทางให้มหาเธร์ได้ทำงานบริหารอย่างเต็มที่

ความสัมพันธ์ระหว่างมาเลเซียกับจีนในช่วงนี้ไม่ดีนัก เพราะมาเลเซียยกเลิกโครงการขนาดใหญ่ที่จีนสนับสนุน หรือที่มีนักลงทุนจีนเกี่ยวข้องไปหลายโครงการ เช่น การสร้างทางรถไฟเชื่อมโยงฝั่งทะเลด้านตะวันออก โครงการก่อสร้างท่อส่งน้ำมัน

นอกจากนั้น ยังชะลอโครงการก่อสร้างทางรถไฟเชื่อมกรุงกัวลาลัมเปอร์กับสิงคโปร์ซึ่งนักลงทุนจีนให้ความสนใจ มหาเธร์ยังตั้งข้อสงสัยว่าชาวจีนควรจะมีสิทธิซื้ออสังหาริมทรัพย์ในโครงการใหญ่ที่ลงทุนนับแสนล้านดอลลาร์ ซึ่งมีนักลงทุนจีนสนับสนุนอีกด้วย

บลูมเบิร์กรายงานว่า อันวาร์ยืนยันจะยกเลิกโครงการต่างๆ นั้นเป็นความจำเป็นไม่ใช่เป็นการหักหน้าจีนแต่อย่างใด และการไปเยือนจีนของมหาเธร์ก็เป็นการยืนยันเจตนารมย์ว่าสองประเทศจะต้องติดต่อกันด้านเศรษฐกิจต่อไป