ไม่พบผลการค้นหา
อดุลย์ เขียวบริบูรณ์ ยกเหตุการณ์พฤษภาคม 2535 เตือนสติอย่าคิดสืบทอดอำนาจให้ทบทวนก่อนที่จะเกิดความเศร้าเสียใจอีก พร้อมถามการแข่งขันจะเสรีและเป็นธรรมได้อย่างไร หวั่นกลายเป็นเงื่อนไขความขัดแย้งใหม่ไม่รู้จบ

นายอดุลย์ เขียวบริบูรณ์ ประธานคณะกรรมการญาติวีรชนพฤษภา’35 กล่าวถึงกรณีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) จะแสดงจุดยืนทางการเมืองที่ชัดเจนช่วงเดือนก.ย.นี้ ว่า การที่ คสช.นำโดยพล.อ.ประยุทธ์ ได้บริหารบ้านเมืองมาเกินกว่า 4 ปีแล้ว ซึ่งประชาชนทุกภาคส่วนก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี บัดนี้คสช.มีแนวโน้มว่าจะเปลี่ยนสภาพตัวเองจากกรรมการที่มีอำนาจกำกับดูแลการเลือกตั้ง แต่กลับจะเป็นผู้เล่นเสียเอง ทั้งที่ประชาชนได้เตือนมาตลอดว่าการกระทำแบบนี้ถือเป็นเรื่องการสืบทอดอำนาจและไม่สมควรทำเป็นอย่างยิ่ง หากได้เรียนรู้จากประวัติศาสตร์ทางการเมืองที่เกิดขึ้นกับประเทศไทยโดยเฉพาะเหตุการณ์พฤษภาทมิฬ ซึ่งทุกคนยังรังเกียจและเป็นห่วงไม่อยากให้เกิดซ้ำรอยอีก

ประธานคณะกรรมการญาติวีรชนฯ กล่าวว่า ช่วงที่ผ่านมาเราได้พยายามสนับสนุนให้คสช.สามารถดำเนินการตามที่ได้ให้สัญญาประชาคมไว้นับแต่วันที่ทำการยึดอำนาจการบริหารบ้านเมืองมาตลอด ซึ่งได้เตือนไว้ 2 ประเด็นสำคัญว่าจะต้องรีบดำเนินการเพื่อให้บ้านเมืองกลับสู่ความสงบเรียบร้อยก้าวเดินไปข้างหน้าได้อย่างสง่าผ่าเผย คือ 1. การสร้างความรักสามัคคีเอื้อเฟื้อเกื้อกูลต่อกันตามพระราชดำริของในหลวงรัชกาลที่ 9และพระราชดำริของพระเจ้าอยู่หัวองค์ปัจจุบัน และ 2. การป้องปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ ที่เคยเกิดขึ้นในหลายรัฐบาลผ่านมา แต่ปรากฏว่ารัฐบาลคสช.ประสบความล้มเหลวทั้ง 2 ข้อ อันนำไปสู่ความล้มเหลวไม่สามารถนำพาประเทศประชาชนก้าวไปข้างหน้า ซ้ำร้ายยังปรากฏความทุกข์ยากลำบากจากภาวะเศรษฐกิจไปทุกระดับ ยกเว้นกลุ่มนายทุนที่ได้รับการเอื้อทุกรูปแบบ

“แม้แต่ภาระหน้าที่ในการนำพาประเทศก้าวสู่ความเป็นประชาธิปไตยในต้นปี 2562ก็ได้พยายาม ล็อกกฎกติกาทุกรูปแบบเพื่อเอื้อต่อฝ่ายตัวเอง เมื่อไม่เป็นที่พึงพอใจก็ใช้อำนาจแก้ไขใหม่ได้อีก คงต้องถามรัฐบาลคสช.ว่า หากกรรมการลงมาเล่นเองจะทำให้การแข่งขันอย่างเสรีและเป็นธรรมได้อย่างไร เพราะเมื่อผลออกมาก็จะไม่ได้รับการยอมรับ กลายเป็นเงื่อนไขความขัดแย้งใหม่ขึ้นมาไม่รู้จบ ขณะที่การปฏิรูปประเทศก็ไม่สำเร็จยังซื้อเวลาออกไปอีก แล้วพรรคการเมืองที่ดีของประชาชนจะเกิดขึ้นได้อย่างไรหากไม่สามารถนำเสนอนโยบายของพรรคให้ประชาชนพิจารณาก่อนการเลือกตั้ง นอกเสียจากการยัดเยียดระบบเดิมๆของกลุ่มทุนต่างๆที่เป็นผู้ครอบงำพรรคการเมืองเหมือนในอดีตจนเกิดวิกฤติการเมืองถึงปัจจุบันนี้” 

ายอดุลย์ กล่าวอีกว่า คณะกรรมการญาติพฤษภาคม 35 ซึ่งเป็นผู้เจ็บปวดจากการสูญเสียจึงใคร่ขอเอาตัวอย่างที่เกิดขึ้นจากเหตุการณ์พฤษภาทมิฬเพื่อเตือนสติคสช.ให้คิดทบทวนและกลับมาทำตามคำมั่นสัญญาที่ให้ไว้ว่าจะเข้ามาแก้ไขปัญหาบ้านเมืองและอย่าได้พยายามสืบทอดอำนาจ อันจะเป็นเหตุที่อาจจะนำพาความเศร้าเสียใจกลับมาอีกครั้งหนึ่ง และเชื่อว่าหากมีการทบทวนอย่างจริงจังยังพอมีเวลาที่รัฐบาลคสช.จะกลับตัวกลับใจมาเป็นกรรมการดังที่ตั้งใจและให้สัญญากับประชาชนไว้ จึงขอภาวนาให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่คุ้มครองประเทศไทยได้ดลใจให้รัฐบาลคสช.ทำในสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อบ้านเมืองตามสัญญาก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินไป