ไม่พบผลการค้นหา
ศาลยกฟ้องคดี 'อดีตอธิบดีกรมอุทยานฯ' ฟ้อง 'ชัยวัฒน์' พร้อมชุดจับกุม เหตุปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ชี้ตำรวจทำตามหน้าที่ ไร้เจตนากลั่นแกล้ง

วันที่ 30 พ.ค. ที่ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง นัดฟังคำสั่งกรณีที่ รัชฎา สุริยกุล ณ อยุธยา อดีตอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ยื่นฟ้อง พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผู้บังคับการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (ผบก.ปปป.) รวมทั้งชุดจับกุม และ ชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 9 (จ.อุบลราชธานี) กับพวก รวม 7 คน

ในฐานความผิดเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ, ความผิดต่อเสรีภาพ, ทำพยานหลักฐานเท็จฯ, เจ้าพนักงานแกล้งให้ต้องรับโทษ บุกรุก ซ่องโจร, ผิดพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล 2562 จากกรณีจำเลยทั้งหมดมีการวางแผนล่อลวงให้รับเงิน และยังมีการเผยแพร่ข้อมูลบันทึกวิดีโอให้สื่อมวลชนนำไปเผยแพร่ต่อสาธารณชน ทำให้ได้รับความเสียหาย เสื่อมเสียชื่อเสียง

ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า การที่บรรดาจำเลยวางแผนตรวจค้นจับกุมโจทก์ตามที่ได้รับการประสานมาจากเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. จึงเป็นการกระทำไปตามอำนาจหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปปป. ซึ่งเป็นเพียงวิธีการพิสูจน์ความผิดของโจทก์ ไม่เป็นการแสวงหาพยานหลักฐานโดยมิชอบ และไม่ใช่เป็นการร่วมกันก่อหรือพยายามก็ให้โจทก์กระทำความผิด 

เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้เข้าไปยังห้องทำงานของโจทก์ในทันทีและ ตรวจค้นพบซองบรรจุเงินรวม 98,000 บาท ที่เจ้าหน้าที่นำไปมอบให้โจทก์อยู่ในลิ้นชักโต๊ะทำงานของโจทก์ กรณีจึงเป็นความผิดซึ่งหน้าซึ่งเห็นกำลังกระทำหรือพบในอาการใดซึ่งแทบจะไม่มีความสงสัยเลยว่าโจทก์ได้กระทำความผิดมาแล้วสดๆ ทั้งมีเหตุอันควรเชื่อว่าเนื่องจากการเป็นช้ากว่าจะเอาหมายค้นมาได้ 

บรรดาจำเลยจึงมีอำนาจตรวจค้นจับกุมโจทก์โดยไม่ต้องมีหมายค้นและหมายจับตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 78 (1) และมาตรา 92 (2) (4) เมื่อข้อเท็จจริงได้ความจากที่โจทก์แถลงต่อศาลในชั้นตรวจฟ้องว่า ก่อนเกิดเหตุคดีนี้ โจทก์ไม่เคยรู้จักและไม่เคยมีสาเหตุโกรธเคืองกับบรรดาจำเลยและเจ้าหน้าที่รัฐที่มีรายชื่อในบันทึกการจับกุมท้ายฟ้อง กรณีจึงไม่มีเหตุที่จะชี้ให้เห็นว่าการเข้าตรวจค้นจับกุมโจทก์ครั้งนี้ จำเลยได้กระทำโดยมีเจตนาเพื่อที่จะกลั่นแกล้งให้โจทก์ต้องรับโทษตามที่โจทก์อ้าง 

การกระทำของจำเลยที่ 1 ถึงที่ 6 จึงไม่เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 และ 200 ทั้งไม่เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 179 มาตรา 210, 310, 364 และ 365 ทั้งยังไม่ผิด พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล 2562 ศาลพิพากษายกฟ้อง