เมื่อไม่นานมานี้ทางการยูเครนได้รับการแจ้งว่า มีการพบเห็นการติดสินบนเกิดขึ้น โดยรายงานระบุว่า มีเจ้าหน้าที่ซื้ออาหารของกองทัพในราคาที่สูงเกินจริง และเจ้าหน้าที่อีกคนหนึ่งถูกกล่าวหาว่าใช้ชีวิตอย่างฟุ่มเฟือย โดย มีไคโล โปโดลยัก ผู้ช่วยอาวุโสของประธานาธิบดียูเครนระบุว่า เซเลนสกีกำลังตอบนองต่อ “ข้อเรียกร้องที่สำคัญของสาธารณชน” ที่ความยุติธรรมควรบังคับใช้ต่อทุกคน นอกจากนี้ เซเลนสกีได้ออกคำสั่งห้ามเจ้าหน้าที่รัฐเดินทางออกนอกประเทศแล้ว เว้นแต่จะได้รับอนุญาต
เจ้าหน้าที่ระดับสูงคนแรกที่ยื่นหนังสือลาออกเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา (24 ม.ค.) คือ คีรีโล ทีโมเชนโก รองหัวหน้าสำนักประธานาธิบดียูเครน ซึ่งคอยทำหน้าที่ดูแลนโยบายระดับภูมิภาค และก่อนหน้านี้เคยทำงานในการจัดการรณรงค์หาเสียงแก่เซเลนกี โดยหลังจากที่รัสเซียเริ่มการรุกรานยูเครนเมื่อเดือน ก.พ.ปีที่แล้ว ทีโมเชนโกได้กลายมาเป็นโฆษกรัฐบาลคนสำคัญ
ทีโมเชนโกถูกกล่าวหาจากผู้สื่อข่าวสายสืบสอบสวนว่าใช้รถยนต์ปอร์ตหรูหลายคัน ตลอดช่วงเวลาที่เกิดสงคราม แต่มีการปฏิเสธว่าไม่มีการกระทำผิดใดๆ โดยข้อความในเทเลแกรมของทีโมเชนโก ระบุส่งท้ายจากการลาออกว่า เขาขอขอบคุณเซเลนกีจาก “โอกาสอันดีในการทำเพื่อสิ่งที่ดีในทุกวันและทุกนาที”
วยาเชลาฟ ชาโปวาลอฟ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหมยูเครน ยังเป็นอีกหนึ่งเจ้าหน้าที่ระดับสูง ที่ตัดสินใจลาออกจากตำแหน่งของตัวเอง หลังจากมีรายงานของหน่วยงานที่ไม่เปิดเผยชื่อว่า ราคาซื้อเสบียงอาหารของกองทัพยูเครนภายใต้การดูแลของชาโปวาลอฟนั้น เป็นราคาอาหารที่สูงเกินกว่าความเป็นจริง
อย่างไรก็ดี กระทรวงกลาโหมยูเครนชี้แจงว่ากรณีดังกล่าวเป็น “ความผิดพลาดเชิงเทคนิค” และอ้างว่าไม่มีเม็ดเงินใดเลยที่ถูกเปลี่ยนมือไประหว่างทาง ทั้งนี้ โอเล็กซี เรซนิคอฟ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมยูเครน กำลังถูกตรวจสอบจากข้อกล่าวหาเดียวกัน
เจ้าหน้าที่ระดับสูงคนอื่นๆ ที่ถูกปลดเมื่อวันอังคาร ยังมี โอเลสกี ซีโมเนนโก รองอัยการสูงสุด อิวาน ลูเกอร์ยา รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการพัฒนาชุมชนและดินแดน วยาเชสลาฟ เนโกดา รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการพัฒนาชุมชนและดินแดน วิตาลี มูซีเชนโก รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงนโยบายสังคม และผู้ว่าการภูมิภาคของดนิโปรเปตรอฟสก์ ซาปอริซเซีย เคียฟ ซูมี และ เคอร์ซอน
ยูเครนเป็นประเทศที่มีประวัติการคอร์รัปชัน และในปี 2564 องค์กรโปร่งใสนานาชาติ (TI) ได้จัดอันดับยูเครนในอันดับที่ 122 จาก 180 ประเทศของดัชนีชี้วัดรัฐที่มีการทุจริต ทั้งนี้ การปราบปรามคอร์รัปชันในครั้งนี้ของเซเลนกี เป็นหนึ่งในข้อเรียกร้องที่สำคัญของสหภาพยุโรป หากยูเครนต้องการจะเร่งการดำเนินการสมัครเข้าร่วมเป็นสมาชิก
จากการแถลงเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (22 ม.ค.) เซเลนสกีให้คำมั่นว่ายูเครนจะ “ไม่หวนกลับคืนสู่สิ่งที่เคยเป็นในอดีต สู่วิถีชีวิตของผู้คนมากมายที่ประกบติดอยู่กับองค์กรของรัฐ” การแถลงของเซเลนสกีมีขึ้นหลังจากการจับกุม วาซิล โลซินสกี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงโครงสร้างพื้นฐานของยูเครนเมื่อวันเสาร์ (21 ม.ค.) จากข้อหารับสินบนมูลค่ากว่า 350,000 เหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 11.47 ล้านบาท) จากการจัดซื้อจัดหาเครื่องปั่นกระแสไฟฟ้า อย่างไรก็ดี โลซินสกีปฏิเสธข้อกล่าวหาฺดังกล่าว
เดวิด อราคาเมีย หัวหน้าพรรคผู้รับใช้ประชาชนของเซเลนสกีกล่าวว่า เจ้าหน้าที่ที่ทุจริตอาจถูกจำคุก “เจ้าหน้าที่ทุกระดับได้รับการเตือนอย่างต่อเนื่อง ผ่านช่องทางที่เป็นทางการและไม่เป็นทางการ ที่จะมุ่งเน้นไปที่สงคราม การช่วยเหลือเหยื่อ ลดความเป็นระบบราชการ และหยุดทำธุรกิจที่น่าสงสัย หลายคนได้รับฟังมันอย่างจริงจัง แต่บางรายซึ่งน่าเสียใจไม่ได้ทำเช่นนั้น” อราคาเมียระบุในเทเลแกรม
“ถ้ามันไม่ได้ผลในทางอารยะ มันก็จะถูกทำตามกฎของสงคราม สิ่งนี้บังคับใช้ทั้งกับการซื้อเครื่องปั่นกระแสไฟฟ้าเมื่อเร็วๆ นี้ และเรื่องอื้อฉาวใหม่ในกระทรวงกลาโหม” อราคาเมียย้ำ ทั้งนี้ แม้ว่าจะมีการปฏิรูปการต่อต้านการทุจริตในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา แต่เดิมพันดังกล่าวของทางการยูเครนยังคงมีสูง จากการได้รับความช่วยเหลือทางการเงินมูลค่าหลายพันล้านเหรียญหรัฐฯ จากพันธมิตรตะวันตก
ที่มา: