ไม่พบผลการค้นหา
ราคาผลไม้ตกต่ำสร้างความลำบากให้ทั้งเกษตรกรและแม่ค้าคนกลาง ผู้ขายต้องยอมระบายของออกแม้ไม่ได้ราคาเพื่อลดผลผลิตเน่าเสีย

หลัง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ออกมาประกาศยกระดับสถานการณ์ฉุกเฉิน หรือ 'เคอร์ฟิว' ทั่วประเทศ เมื่อวันที่ 2 เม.ย.ที่ผ่านมา โดยจำกัดการเดินทางของประชาชนระหว่างเวลา 22.00 - 04.00 น.เริ่มตั้งแต่วันที่ 3 เม.ย.เป็นต้นไป ก็มีเสียงสะท้อนของผู้ขนส่งสินค้าเกษตรออกมาจำนวนมากถึงผลกระทบดังกล่าวก่อนที่ข่าวคราวจะดูซาลงไป

อย่างไรก็ตาม นั่นเป็นเพียงปัญหามิติเดียวที่เกษตรกรและผู้ค้าผลไม้ต้องเผชิญ ล่าสุด 'ทีมข่าววอยซ์ออนไลน์' ลงพื้นที่สำรวจร้านค้าผลไม้ในตลาดไท ก่อนพบว่า

ปัญหาสำคัญตอนนี้ที่ทั้งผู้ค้าและผู้ผลิตต้องแบกคือราคาสินค้าที่ตกต่ำและปริมาณผลผลิตที่ล้นเกิน 

เศรษฐกิจ-ตลาดไท-ผลไม้-เงาะ

'ปภัทรนันท์ อัครคำบริสุทธิ์' กล่าวกับทีมข่าวว่า ปัจจุบันเกษตรกรได้รับผลกระทบอย่างมาก โดยชี้ว่า ราคาเงาะนั้นตกลงมาอยู่ที่กิโลกรัมละ 20 บาทเท่านั้น จากที่เกษตรกรเคยได้ราวๆ กิโลกรัมละ 40 บาท นอกจากนี้ ปัญหาผลผลิตล้นตลาดยังไม่เข้าสู่จุดสูงสุดด้วยซ้ำ เพราะแนวโน้มผลผลิตจะเข้าสู่จุดพีคในช่วงต้นเดือน พ.ค.ซึ่งจะทำให้ราคาสินค้าตกต่ำลงไปอีก

เช่นเดียวกับ 'ศิริพร เส็งสมาน' ที่ชี้ว่าตนเองเปิดร้านขายของทุกวันนี้ก็เพื่อรองรับค่าใช้จ่ายและช่วยผู้ผลิตที่ค้าขายร่วมกันมาเป็นเวลานานให้สามารถระบายสินค้าออกจากสวนได้ เธอ อธิบายว่า ผลไม้อย่างฝรั่งมีอายุประมาณ 10 วัน ก็ต้องเก็บเกี่ยวได้แล้ว หากปล่อยให้เกินเป็น 14 - 15 วัน ผลผลิตก็เสียหายและไม่สามารถขายได้ ดังนั้นตนในฐานะแม่ค้าคนกลาง ก็ต้องนำสินค้าออกมาจากสวนมาขายที่ตลาดอยู่ดีแม้ "เมื่อก่อนลูกสวนจะได้ 20 บาท/กก. แล้วตอนนี้เหลือ 10 - 12 บาท/กก." ก็ตามเพราะ "ถ้าเราไม่ขาย ของในสวนทิ้งทั้งหมด" 


"ฝรั่งมีตำหนิขายลังละ 20 บาท โลละ 1 บาท ก็ยังต้องขายเลย" ศิริพร กล่าว
แม่ค้าตลาดไท
  • 'ศิริพร เส็งสมาน'
ปลายทางไม่เหลือเงินซื้อ 

'ณชญา คงศรี' สะท้อนว่าปัญหาหลักที่สุดคือประชาชนปลายทางมีกำลังซื้อน้อยลง เนื่องจากผลกระทบจากวิกฤตโรคระบาดที่กระทบทั้งสุขภาพและสถานการเงิน 

ยิ่งเมื่อผลไม้ไม่ได้ถูกมองว่าเป็นอาหารหลัก ก็เป็นเรื่องปกติที่ประชาชนจะต้องใช้จ่ายไปกับของสำคัญก่อน และเมื่อมีเงินเหลือหรือเมื่อราคาผลไม้ถูกลงมากจริงๆ จึงค่อยแบ่งเงินมาจับจ่ายใช้สอย ซ้ำร้าย เกษตรกรผู้ผลิตยังต้องเผชิญปัญหากับสภาวะแล้งหนักกว่าปกติด้วย ซึ่งส่งผลให้ผลผลิตที่ออกมาไม่ได้มาตรฐานและสุดท้ายก็ไม่สามารถทำราคาได้เท่าที่ควร 

อย่างไรก็ตาม 'ปภัทรนันท์' ชี้ว่า เกษตรกรเองก็เข้าใจสภาวการณ์ที่เป็นอยู่เรื่องราคาตกต่ำ และเพียงหวังให้ยังสามารถระบายสินค้าออกมาจากสวนได้เรื่อยๆ เพราะอย่างน้อยก็ไม่ต้องปล่อยให้ผลผลิตเสียคาต้น 

แม่ค้าตลาดไท
  • 'ปภัทรนันท์ อัครคำบริสุทธิ์'

'ปภัทรนันท์' กล่าวว่า "เกษตรกรเขาก็เข้าใจ เพราะว่าถ้าสินค้าราคาสูงทางเรามาก็ขายไม่ได้ เขาต้องการที่จะให้สินค้าออกมาสู่ตลาดได้มากขึ้นทำให้ราคาก็อาจจะย่อมเยาว์ลงไปตามกลไกตลาด เขาก็รับได้"

เธอทิ้งท้ายว่า ในฐานะแม่ค้าคนกลางที่ก็ได้รับผลกระทบไม่น้อยไปกว่ากันก็ไม่แน่ใจว่าจะช่วยเกษตรกรได้มากกว่าเดิมแค่ไหน นอกจากคอยเปิดร้านเอาไว้เพื่อช่วยระบายของ แต่ก็หวังว่าจะไม่มีการล็อกดาวน์ประเทศ 24 ชั่วโมง จนไม่สามารถทำมาหากินได้เพราะถ้าเป็นแบบนั้นผลกระทบจะเกิดขึ้นหนักมาก 


ข่าวที่เกี่ยวข้อง;