ท่ามกลางคิวที่ต่อยาวออกไปนอกร้านขายทองฮั่วเซ่งเฮง สาขาถนนมังกร ในย่านเยาวราช 'ทีมข่าววอยซ์ออนไลน์' ได้พูดคุยกับประชาชนจำนวนหนึ่งก่อนพบว่าอีกสาเหตุสำคัญที่พวกเขาเดินทางมาขายทองในครั้งนี้อาจไม่ได้เป็นเพราะราคาที่พุ่งสูงที่สุดในรอบ 7 ปี แต่เป็นเพราะท่ามกลางวิกฤตแบบนี้ 'เงินสด' คือสิ่งสำคัญที่สุดต่อการดำรงชีวิต
'สมใจ นามแฝง' ที่เดินทางมาขายทองพร้อมกับคนขับจักรยานยนต์รับจ้างที่ดูสนิทสนมกันกล่าวให้เราฟังว่า สถานการณ์ในครอบครัวตอนนี้มีปัญหาเรื่องเงินทองมาก เนื่องจากเป็นครอบครัวใหญ่และมีรายจ่ายเยอะ จึงจำเป็นต้องแบกทรัพย์สินที่เก็บหอมรอมริดเอาไว้มาแลกเป็นเงินสดใช้จ่ายแทน
"ถามว่าเสียดายไหม เสียดาย เก็บมาได้หามาได้ แต่มันจำเป็นก็ต้องขาย" สมใจ กล่าว
- 'สมใจ นามแฝง' (ขวา)
สมใจ กล่าวต่อว่า วันนี้มาขายทั้งทองคำแท่งและทองรูปพรรณ เพื่อหวังนำเงินไปหมุนเป็นหลัก และก็ไม่มีตัวเลือกอื่นเนื่องจาก "เงินเยียวยา อะไรๆ ทุกอย่างก็ยังไม่ได้ ยังไม่มีเลย ทำไปก็บอกไม่ผ่าน ไม่ผ่าน รอตรวจสอบ ตรวจสอบแล้วไม่ผ่าน ก็ไม่รู้จะทำยังไง ... สุดท้ายก็เลยขายสมบัติกินนี่แหละ"
เช่นเดียวกับ 'ลักขณา ผู้ศรี' หญิงสาวที่ขับรถมาไกลจากอำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี เพื่อนำทองจำนวน 2 บาทที่สะสมไว้มาขายประทังชีวิต เธออธิบายกับเราว่าตอนนี้สภาพการเงินค่อนข้างลำบากเพราะเงินที่เคยหาได้ก็เหลือเพียงครึ่งเดียว ขณะที่แฟนซึ่งทำอาชีพโปรแกรมเมอร์ก็มีงานน้อยลง และอาชีพเสริมอย่างการเปิดทัวร์ก็ปิดตัวลงถาวรไปก่อนหน้านี้แล้ว
ทีมข่าวยังได้สัมภาษณ์ 'เล็ก สำเภาทอง' ซึ่งนำแหวนทองของตนซึ่งเคยซื้อไว้นานแล้วจากร้านฮั่วเซ่งเฮงกลับมาขายอีกครั้งทั้งที่ไม่ได้ส่วนต่างกำไรมากนัก เนื่องจากซื้อมาในราคา 20,000 กว่าบาทเช่นเดียวกัน แต่ก็เอามาขายเพราะ "ตอนนี้เงินทองมันขาดมือ ก็ต้องเอาไว้ก่อน ที่บ้านก็มีเด็กหลายคน"
นอกจากผู้คนที่ทีมข่าวได้สัมภาษณ์ในวันนี้ 'ธนรัชต์ พสวงศ์' ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัทฮั่วเซ่งเฮง ก็เสริมว่าเมื่อสังเกตจากฝั่งร้านทอง ประชาชนมีแนวโน้มอยากสำรองเงินสดในจำนวนมากซึ่งดูจากการเทขายสัดส่วนทองรูปพรรณเยอะขึ้นมากแบบผิดหูผิดตา บวกกับปัจจัยราคาทองคำในตลาดโลกที่พุ่งขึ้นกว่าร้อยละ 14 ตั้งแต่ต้นปีและเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 21 ในตลาดประเทศไทย
สภาพคล่องร้านทองยังมี..ยังดี
สำหรับก่อนหน้านี้ที่มีประเด็นทำนองว่า ร้านขายทองบางแห่งอาจต้องปิดตัวลงไปเนื่องจากประชาชนพากันมาเทขายทองเป็นจำนวนมาก 'ธนรัชต์' ยอมรับว่าตนก็สับสนเช่นเดียวกันกับข่าวที่ออกมา แต่ให้ความมั่นใจว่าฮั่วเซ่งเฮงยังคงเปิดให้บริการเช่นเดิม และพร้อมที่จะรับซื้อทองคืนจากลูกค้าเสมอ
- 'ธนรัชต์ พสวงศ์' ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัทฮั่วเซ่งเฮง
ประธานฮั่วเซ่งเฮง อธิบายให้เราฟังว่า ความกังวลที่เกิดขึ้นตอนนี้คือสภาพคล่องและกระแสเงินสดของร้านทองซึ่งต้องยอมรับว่าอาจจะมีความขัดข้องบ้างในร้านขนาดกลางหรือขนาดเล็กแต่เมื่อมองภาพรวมแล้วยังถือว่าดี และก็เหมือนเป็นโจทย์ให้กับตัวร้านทองเองว่าจะต้องบริการกระแสเงินสดและการระบายของออกต่างประเทศอย่างไร
อย่างไรก็ตาม ฝั่งฮั่วเซ่งเฮงซึ่งเป็นร้านทองขนาดใหญ่มีการทำงานใกล้ชิดกับธนาคารพาณิชย์เพื่อทำให้มั่นใจว่าหากประชาชนเดินทางมาขายทองและต้องการที่จะรับเป็นเงินสดแทนเงินโอนเข้าบัญชีหรือเช็คก็จะมีเงินเพียงพอต่อความต้องการ อีกทั้งสถานการณ์การรับซื้อทองก็ไม่ได้ก่อให้เกิดปัญหากับบริษัทเพราะตลาดต่างประเทศ อาทิ ฮ่องกง สิงคโปร์ หรือ สวิตเซอร์แลนด์ ยังคงซื้อทองอย่างต่อเนื่อง
เป็นสินทรัพย์ปลอดภัยแต่ก็เป็นสินค้าฟุ่มเฟือย
เมื่อมองต่อไปในอนาคต 'ธนรัชต์' ชี้ว่า จำเป็นต้องมองทองคำออกเป็น 2 ประเภท คือทองคำรูปพรรณและทองคำแท่ง ซึ่งในส่วนแรกมีความเป็นไปได้ที่จะมียอดซื้อเข้ามาน้อยลงเนื่องจากเศรษฐกิจหลังจบโควิด-19 อาจจะยังไม่ดี และทองคำรูปพรรณก็เป็นสินค้าฟุ่มเฟือยประเภทหนึ่งเพราะเป็นเครื่องประดับ การซื้อจึงอาจจะชะลอตัวลง
ส่วนมิติเรื่องทองคำแท่ง ทั้งในตลาดประเทศไทยและตลาดต่างประเทศก็มีความผันผวนสูงซึ่งตนเองมองว่านักลงทุนเข้าใจสถานการณ์ ณ ปัจจุบันดี แต่เมื่อสถานการณ์กลับมาเป็นปกติ ตนเองคิดว่านักลงทุนจะ "แห่กลับเข้ามาเหมือนเดิม "
'ธนรัชต์' ทิ้งท้ายว่า ในฐานะร้านทอง พยายามทำทุกอย่างเท่าที่จะทำได้เพื่อให้ประชาชนไม่ได้รับความเดือดร้อนเรื่องกระแสเงินสดเมื่อมาขายคืน พร้อมเตือนให้นักลงทุนระมัดระวังและเฝ้าดูข่าวสารอย่างใกล้ชิด
ข่าวที่เกี่ยวข้อง;
