ก็เพราะ 4 มี.ค.เป็นวันที่ 6 พรรคร่วมฝ่ายค้านนัดดินเนอร์การเมือง กระชับความสัมพันธ์กันในมวลหมู่พรรคร่วมฝ่ายค้าน
หลังเกิดเหตุการณ์ “ผิดคิว” ช่วงอภิปรายไม่ไว้วางใจ ส.ส.อดีตพรรคอนาคตใหม่ปักใจเชื่อว่าถูก “เพื่อไทย” เตะถ่วงเวลา มี
“คุณขอมา” เพื่อไม่ให้อภิปราย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี “บิ๊กบราเธอร์” ในรัฐบาลบิ๊กตู่
จนชาวอนาคตใหม่เดือดทั้งทวิตเตอร์ แถม “ปิยบุตร แสงกนกกุล” อดีตเลขาธิการพรรค โพสต์เฟซบุ๊กร่ายยาวยามดึก บอกว่า การอภิปรายไม่ไว้วางใจ เหมือน “มวยล้มต้มคนดู”
ซึ่งดินเนอร์การเมืองงวดนี้ “พรรคอนาคตใหม่” ต้องเป็น “เจ้าภาพ” ดังนั้น เมื่อร่างเก่าอนาคตใหม่ ถูกยุบสูญสิ้นในทางการเมือง งานดินเนอร์การเมืองอาจกลายเป็น “เวทีเปิดตัวพรรคใหม่”
หัวหอกพรรคอนาคตใหม่เวอร์ชั่น 2 จะเป็นใครอื่นไม่ได้นอกจาก “พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคที่ประชาชน 6.3 ล้านเสียงเลือกมา แต่ถูกศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุบพรรค
ซึ่งการเปิดตัว “พิธา” อย่างไม่เป็นทางการนั้น เกิดขึ้นทันทีที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยยุบอนาคตใหม่ ที่ “ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ” อดีตหัวหน้าพรรคถอดเข็มอนาคตใหม่ออกจากอก ส่งต่อให้ “พิธา” ดูแล ระหว่างการแถลงข่าวเมื่อ 21 ก.พ.ที่ผ่านมา
“เวลานี้ไม่ใช่เวลาที่จะอ่อนแอซึมเศร้าหรือร้องไห้ แม้พวกเราจะไม่ใช่ดาวฤกษ์ แม้แต่หิ่งห้อยที่รวมกันยังสว่างได้ ถ้าพวกเราถือเทียนคนละเล่มคงสว่างเช่นกัน ในภาวะผู้นำแม้เราไม่ใช่ดาวฤกษ์แต่พวกเราจะเป็นดาวกระจายในช่วงเวลาที่สังคมต้องการ พวกเราคือกลุ่มคนที่เป็นครอบครัวเดียวกัน แม้ไม่ใช่สายเลือดเดียวกัน แต่พวกเรามีอุดมการณ์ร่วมกัน”
“วันนี้เราจะไม่ละทิ้งเสาหลักของบ้าน เราจะถอดบทเรียนก้าวในพาหนะใหม่ที่พวกเราจะไปด้วยกัน ตนคงสัญญากับพี่น้องประชาชนไม่ได้ว่าพวกเราจะไม่ล้มเหลว แต่สัญญาได้ว่า เส้นทางที่จะก้าวไปไม่เป็นเส้นตรง และไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ แต่เราไม่มีวันล้มเลิก แม้จะล้มก็ล้มไปข้างหน้า ขับเคลื่อนสังคมให้ก้าวไปข้างหน้า พวกเราต้องก้าวต่อไป หากพี่น้องประชาชนยังโดนกดทับด้วยความยากจน นั่นจะเป็นหน้าที่ของเรา เราต้องก้าวต่อไป” เป็นสปีชแรกของ “พิธา” ในวันนั้น
นอกจาก “พิธา” หัวหอกคนต่อไป ตัวเต็งที่จะขึ้นเป็นเลขาธิการ คือ “ศิริกัญญา ตันสกุล” แกนนำอนาคตใหม่อีกราย ที่รอดพ้นจากการถูกตัดสิทธิการเมือง 10 ปี เพราะไม่ได้เป็นกรรมการบริหารพรรค
“ศิริกัญญา” เป็นอดีตนักวิจัยของทีดีอาร์ไอ ที่ถูก “ธนาธร” และเพื่อน ชักชวนให้เข้าสู่การเมืองเป็นครั้งแรก และยังเป็น ผู้อำนวยการด้านนโยบายของพรรคอนาคตใหม่
เมื่อ “ศิริกัญญา” เป็นแกนนำรุ่นก่อตั้งที่เหลืออยู่ เธอจึงมีชื่อ – มีสิทธิ เป็นตัวเต็งลำดับต้นๆ ที่จะมานั่งเก้าอี้เลขาธิการพรรค
อย่างไรก็ตาม แม้อนาคตใหม่จะมีแผน 2 แผน 3 เตรียมการสำหรับยุบพรรค ด้วยการเซ็ตอัปพรรคใหม่ขึ้นมา
ทว่าสิ่งที่เหนือความคาดหมาย เหนือการควบคุมสำหรับอดีตแกนนำอนาคตใหม่เดิม คือ เกิดปรากฏการณ์ ส.ส.งูเห่ามากกว่าที่คาดการณ์ไว้
ก่อนยุบพรรค แกนนำอนาคตใหม่ ประเมินว่าหลังการยุบพรรค จะมี ส.ส.ที่ย้ายค่าย เป็น “งูเห่า” แค่ตัวสองตัว แต่เอาเข้าจริงผ่านไปแค่ 3 วัน “งูเห่า” เผยโฉมหน้าที่เดียว 9 ตัว
1. นายวิรัช พันธุมะผล ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อ 2. นายฐิตินันท์ แสงนาค ส.ส. เขต 1 จ.ขอนแก่น 3. นายกฤติเดช สันติวชิระกุล ส.ส. เขต 2 จ.แพร่ 4. นายกิตติชัย เรืองสวัสดิ์ ส.ส. เขต 1 จ.ฉะเชิงเทรา 5. นายมณฑล โพธิ์คาย ส.ส. เขต 20 กรุงเทพมหานคร 6. นายอนาวิล รัตนสถาพร ส.ส. เขต 3 จ.ปทุมธานี 7. นายเอกการ ชื่อทรงธรรม ส.ส. เขต 1 จ.แพร่ 8. นายโชติพิพิฒน์ เตชะโสภณมณี ส.ส. เขต 23 กรุงเทพมหานคร 9. นายสำลี รักสุทธี ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อ
จากตัวเลข 65 ส.ส.หลังศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุบพรรค เปลี่ยนเป็นตัวเลขที่สลับกลับกัน 56 คน
ตัวเลขงูเห่าอาจสูงขึ้นในอัตราเร่ง เมื่อตลาดสดชอปตัว ส.ส.เปิดขึ้น ไม่ว่าในห้องน้ำ ห้องประชุมสภา ห้องกินข้าว ห้องกาแฟ เกิดเกมเจรจาระบาดไปทั่วทั้งรัฐสภา
และมีแนวโน้มที่จะ “สูญเสีย” กำลังเพิ่มมากขึ้น ในช่วงปิดสมัยประชุมสภา 2 เดือน ที่ฝ่ายนิติบัญญัติ
“ปิยบุตร แสงกนกกุล” อดีตเลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ จึงปรับตัวเลขประมาณการใหม่ ว่า พรรคอนาคตใหม่เดิมอาจสูญเสีย ส.ส.อีก 5-6 คน เหลือ 50 คนโดยประมาณ
พรรคที่เข้าไปช้อนซื้อ ส.ส.เป็นเบอร์ 1 คือ ภูมิใจไทย ซึ่งขณะนี้ได้ ส.ส.ไปแล้ว 9 คน มีการประเมินทางการเมืองว่า “ภูมิใจไทย” ของ “อนุทิน ชาญวีรกูล” ต้องการปรับพอร์ต ส.ส.ที่มีอยู่ในมือ หากเกิดอุบัติเหตุกับ พล.อ.ประยุทธ์
ด้วยคอนเนกชั่นทางการเมือง ทั้งภาคธุรกิจ นายทุน เขาจะกลายเป็นตัวเลือก เบอร์ 1 สำหรับแคนดิเดตนานยกรัฐมนตรี
“ปิยบุตร” กล่าวว่า “ตอนนี้แคนดิเดตนายกฯ ในสภาเหลือน้อยแล้ว ไม่แน่ใจว่า พล.อ.ประยุทธ์ จะเอาตัวรอดได้นานแค่ไหน นายอนุทินก็เป็นแคนดิเดตนายกฯ ดังนั้น นายอนุทินก็เป็นแคนดิเดตคนหนึ่ง มีความรู้ความสามารถ ถ้าจะเป็นนายกฯ ในสมัยนี้ต้องด้วยความสง่างาม ถ้าเริ่มต้นด้วยวิธีแบบนี้คิดว่าไม่สง่างาม”
วัดตัวเลข ส.ส.ในพรรคของ “อนุทิน” จากตัวเลข 51 ที่นั่ง หลังการเลือกตั้ง 24 มี.ค.2562 เพิ่มขึ้นมา 1 เสียง เมื่อ “ศรีนวล บุญลือ” ส.ส.เชียงใหม่ ย้ายมาซบในช่วงปลายปี 2562 และบวกอีก 9 คน ช่วงอภิปรายไม่ไว้วางใจที่ผ่านมา
อัปเกรดจากพรรค 52 เสียง เป็นพรรค 61 เสียง ในวงนินทาการเมืองในตึกรัฐสภา ว่ากันว่าข้อแลกเปลี่ยนหากย้ายมาซบพรรคสีน้ำเงิน จะได้รับการค่าดูแล 1 กิโล เป็นก้อนแรก และดูแลเป็นรายเดือนเดือนละ 2 ขีด
เพื่อเสริมอำนาจต่อรอง “ภูมิใจไทย”
ขี่คอแกนนำรัฐบาลพลังประชารัฐ เพราะภูมิใจไทยจะมี ส.ส.เป็นอันดับ 2 ในซักรัฐบาลทันที
นอกจากนี้ ที่ต้องจับตาคือ ส.ส.อนาคตใหม่ อาจซบตักพรรคเล็ก แบบ “ฝากเลี้ยง” ภายใต้การสนับสนุนเงินทุนของพรรคการเมืองใหญ่ แบบที่พรรคใหญ่ไม่เปลืองแรง ไม่ต้องออกหน้า
แต่ไม่มีย้ายไปอยู่ฝ่ายค้านข้างเดียวกันอย่างพรรคเพื่อไทย โดยแกนนำเพื่อไทยรายหนึ่งบอกว่า ในทางการเมือง พรรคฝ่ายค้านไม่จำเป็นต้องช้อนซื้อตัว ส.ส. ไม่จำเป็นต้องเพิ่มอำนาจต่อรอง เพราะถึงอย่างไรก็เป็นฝ่ายค้าน
“แต่ถ้าใกล้ครบ 60 วัน ไม่อยากดองกับร่างใหม่ เพื่อไทยค่อยพิจารณา”
อนาคตใหม่ เริ่มต้นด้วย ส.ส. 81 คน ก่อนถูกกร่อน ส.ส.ลงเรื่อยๆ ทั้งอุบัติเหตุการเมือง และงูเห่า
สู่ร่างใหม่ในพรรคที่ยังไม่มีการเปิดเผยชื่อ ภายใต้การนำของ “พิธา ลิ้มเจริญรัฐ” แต่กำลังทางการเมืองจะอ่อนลงกว่าเดิม