ศุภชัย พานิชภักดิ์ อดีตผู้อำนวยการใหญ่องค์การค้าโลก หรือ WTO กล่าวถึงการชุมนุมภายในประเทศและผลกระทบทางด้านเศรษฐกิจ ว่า ขณะนี้ทั่วโลกมีปัญหาไม่แตกต่างไปจากประเทศไทย ทั้งปัญหาที่เกิดจากภาวะโรคระบาดซึ่งไปกระทบต่อสภาพเศรษฐกิจ ทำให้ประชาชนมีความอดทนต่อการบริหารประเทศของรัฐบาลน้อยลง
ในต่างประเทศก็มีการชุมนุมประท้วงไม่ต่างจากไทย จึงอยากให้มองว่าการชุมนุมเป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาระบอบประชาธิปไตยร่วมกันต่อไปในอนาคต เนื่องจากระบอบประชาธิปไตยมีความขัดแย้งกันได้ แต่ต้องขอให้อยู่ในขอบเขต เพราะหากความขัดแย้งอยู่นอกขอบเขตจะนำไปสู่สิ่งที่เราไม่ต้องการให้เกิดขึ้น ส่วนตัวเชื่อว่า ประชาชนส่วนใหญ่เข้าใจดี ถึงขอบเขตว่ามีอะไรอยู่บ้างและหากทุกอย่างอยู่ในขอบเขต ก็ไม่น่าจะมีผลกระทบใดๆ
ศุภชัย กล่าวต่อว่า ผู้ที่จะเข้ามาลงทุนในประเทศไทย ต้องเข้าใจว่าสิ่งเหล่านี้เป็นส่วนหนึ่งของระบอบการปกครองประชาธิปไตยของไทย การมาลงทุนในบ้านเรา ต่างชาติดูในหลายๆ เรื่อง ไทยเรามีระบอบการปกครองที่มั่นคงแข็งแกร่ง มีสถานภาพที่มีความน่าเชื่อถือ ตลอดเวลาการแก้ไขเรื่องโรคระบาดเราได้รับความน่าเชื่อถือสูงขึ้นมามาก ถึงจะมีการประท้วงหรือมีความขัดแย้ง ตนฟังจากหลายฝ่ายจากผู้ที่จะมาลงทุนในประเทศเรา สิ่งที่สำคัญที่สุดของเขาเวลานี้คือการที่เรามีความสำเร็จในด้านการยับยั้งการแพร่ระบาดของโคโรนาไวรัสได้เป็นอย่างดี
ศุภชัย กล่าวย้ำว่า ปัญหาเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นในปัจจุบันไม่ได้เกิดจากการบริหารงานที่ผิดพลาดของรัฐบาลใดรัฐบาลหนึ่ง แต่เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นจากโรคภัย ซึ่งหากเรามีวินัยแก้ไขปัญหาโรคภัยได้ การฟื้นคืนเศรษฐกิจจะเป็นไปโดยธรรมชาติ ขอให้อดทน ส่วนรัฐบาลเองต้องพยายามไปหาทรัพยากรมาอุดหนุนให้คนตกงานน้อยที่สุด และทำให้ธุรกิจล้มน้อยที่สุด โดยหลังจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจแล้วสิ่งที่ต้องเร่งแก้ไข คือ การรักษาเสถียรภาพทางการเงินการคลังของประเทศให้ดีขึ้น
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง :