นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ประธานคณะทำงานรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง พรรคไทยรักษาชาติ แถลงผลการลงพื้นที่ภาคใต้ ระบุว่า ประชาชนมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ยากลำบาก เนื่องจากราคาพืชผลการเกษตร ราคายางพารา ราคาปาล์มน้ำมันตกต่ำ รวมถึงปัญหาประมงทั้งขนาดเล็กและขนาดใหญ่ และยังมีปัญหายาเสพติดระบาดด้วยย้ำว่า ทั้งหมดนี้เป็นหน้าที่ของพรรคไทยรักษาชาติที่จะต้องแก้ไขหากได้เป็นรัฐบาล โดยจะนำเอานโยบายที่เคยประสบความสำเร็จมาแล้วในอดีตของพรรคไทยรักไทยมาสานต่อ เช่น การเร่งใช้ยางพาราภายในประเทศโดยเร็ว, ส่งเสริมการแปรรูปเพิ่มมูลค่ายางพารา, ควบคุมการเพาะปลูกยางพาราและส่งเสริมการปลูกพืชทดแทน เป็นต้น

ส่วนกรณีที่นายถาวร เสนเนียม แกนนำพรรคประชาธิปัตย์ จะไปร้องต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. ในเรื่องที่พรรคไทยรักษาชาติ ปราศรัยพาดพิงยืนยันว่า ทางพรรคต้องการทำการเมืองสร้างสรรค์ แต่การพูดความจริงให้ประชาชนได้รับรู้ก่อนการตัดสินใจเลือกตั้งเป็นความรับผิดชอบของนักการเมืองและพรรคการเมือง จึงต้องชี้ให้เห็นว่า พรรคประชาธิปัตย์กับ กปปส.มีนัยยะในการเคลื่อนไหว จนนำสู่การรัฐประหาร เหมือนเป็นสะพานให้กับ คสช.เข้ามายึดอำนาจ 

นายณัฐวุฒิ เชื่อว่าหลังการเลือกตั้งพรรคประชาธิปัตย์จะจับมือกับพรรคพลังประชารัฐ และพรรครวมพลังประชาชาติไทย สนับสนุนพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ให้เป็นนายกรัฐมนตรี สืบทอดอำนาจ คสช. ต่อไป พร้อมย้ำว่า ไม่ใช่การโจมตี แต่เป็นการพูดด้วยหลักฐานและเหตุผล หากนายถาวร จะไปฟ้องร้องต่อ กกต. ถือว่าเป็นสิทธิ์ แต่พรรคไทยรักษาชาติยืนยันว่าที่จะพูดความจริงต่อไป