วันที่ 22 ต.ค. 2565 จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวถึงเป้าหมายเก้าอี้ ส.ส.จังหวัดสมุทรสาคร ในการเลือกตั้งครั้งหน้า ภายหลังงานเปิดตัว 4 ว่าที่ผู้สมัครของพรรคฯ ว่า ประชาธิปัตย์มี ส.ส.ในพื้นที่ต่อเนื่องหลายสมัย เว้นแต่เพียงครั้งก่อน ฉะนั้นครั้งหน้าก็ไม่ได้แปลว่าประชาธิปัตย์จะไม่มีโอกาส และการเปิดตัวครบ 4 เขตถือว่า ปชป.เป็นพรรคแรกๆ ที่มีความพร้อม และมั่นใจว่าเสียงตอบรับจากประชาชนมีแน่นอน รวมถึงมีโอกาสปักธงที่สมุทรสาครได้อีกครั้งหนึ่ง เพราะชาวบ้านกับประชาธิปัตย์สัมพันธ์กันมายาวนาน รวมถึง เอนก ทับสุวรรณ กรรมการสภาที่ปรึกษาพรรคฯ อดีต ส.ส.สมุทรสาคร ประชาชนในพื้นที่ก็ยังช่วยสนับสนุนอยู่ 

นอกจากนี้ เผยว่า เรื่องเศรษฐกิจกับการเมือง ต้องแก้ควบคู่กันไป คือต้องเป็น "ประชาธิปไตยท้องอิ่ม" ที่ทำให้บ้านเมืองเป็นประชาธิปไตยมากขึ้น ซึ่งตรงนี้เป็นสิ่งที่ตนมั่นใจว่าประเทศไทยและประชาชนต้องการและเป็นจุดยืนที่พรรค ปชป.ประกาศชัดเจน พร้อมย้ำว่า ปชป. ยึดมั่นการปกครองแบบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ไม่เอาล้มเจ้า ไม่เอายาเสพติด

เมื่อถามว่า การประกาศจุดยืนชัดเจนแบบนี้กังวลหรือไม่ จะเป็นการแบ่งข้างประชาชนให้เลือกฝั่งไปเลย จุรินทร์ กล่าวว่า ไม่ใช่แบ่งข้าง แต่เป็นการแสดงจุดยืนในทางการเมือง ที่พรรคการเมืองต้องชัดเจน

"วันนี้ภายในประชาธิปัตย์กำลังเชื่อมโยงคนทุกรุ่น ซึ่งประชาธิปัตย์ไม่ใช่พรรคของคนรุ่นใดรุ่นหนึ่ง แต่จุดแข็งของประชาธิปัตย์ คือเป็นพรรคการเมืองของคนทุกรุ่น" จุรินทร์กล่าว

เมื่อถามว่า เลือกตั้งครั้งหน้าตั้งเป้าเก้าอี้ ส.ส.ไว้เท่าไหร่ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ระบุว่า ความจริงก็ตั้งอยู่ว่าเป้าควรจะเป็นอย่างไร ซึ่งพูดไปหลายรอบแล้วส่วนจะได้มากหรือน้อยกว่าเก่านั้น เฉลิมชัย ศรีอ่อน เลขาธิการพรรคฯ พูดชัดแล้วว่าจะต้องได้มากกว่าเดิม 

เมื่อถามย้ำว่า ตนจะประกาศจุดยืนเหมือน เฉลิมชัย ไหม หากไม่ได้เท่าเป้าเดิมจะไขก๊อก (เลขาพรรคฯ เคยประกาศไว้ว่า ถ้าได้ ส.ส.น้อยกว่า 52 ที่นั่งจะเลิกเล่นการเมืองตลอดชีวิต) จุรินทร์ ระบุว่า "เลขาฯท่านประกาศไปแล้ว" เมื่อถามย้ำว่าตนจะประกาศด้วยหรือไม่ หัวหน้า ปชป. ย้ำว่า "เลขาฯ ประกาศไปชัดเจนแล้วครับ"

เมื่อถามว่าการปรับคณะรัฐมนตรี ขณะนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ มีท่าทีอย่างไร จุรินทร์ ระบุว่า เรื่องนี้ต้องถามนายกฯ เพราะตนส่งชื่อให้นายกฯ ไปแล้วต่อจากนี้ก็เป็นดุลพินิจของนายกฯ 

ส่วนกังวลหรือไม่กฎหมายลูก 2 ฉบับจะเสร็จทันก่อนยุบสภาหรือจะยุบก่อน จุรินทร์ กล่าวว่า ทุกอย่างต้องเป็นไปตามข้อเท็จจริง แต่ทั้งหมดมีทางออกเสมอ เพราะ หากกฎหมายรูปไม่เสร็จมันก็มีทางว่าจะต้องทำอย่างไรต่อไป เพราะรัฐธรรมนูญกำหนดไว้ชัดเจนอยู่แล้ว เมื่อถึงเวลานั้นมันก็จะมีคำตอบและสิ่งที่ตนได้พูดไว้ก็จะทำให้มองเห็นว่ามันเป็นจริง เพราะมันมีทางออกเสมอ