ต่างประเทศ
‘ไบเดน’ ชี้ประชามติรัสเซียไม่ชอบธรรม ย้ำ “ไม่มีวัน” รับรองผนวกดินแดนจากยูเครน
ในการทำประชามติจาก 4 แคว้นของยูเครน มีการลงมติให้เกิดการผนวกดินแดนยูเครนเข้าเป็นของรัสเซีย ในขณะที่มีรายงานว่า กระบวนการทำประชามติมีการบังคับประชาชนลงคะแนน อีกทั้งยังมีการลงคะแนนเสียงนอกพื้นที่ทั้ง 4 แคว้นได้ อย่างไรก็ดี ยูเครนตลอดจนพันธมิตรชาติตะวันตกออกมาประณามการทำประชามติดังกล่าว และเรียกว่าประชามติในครั้งนี้เป็นเรื่อง “หลอกลวง”
นอกจากการออกมาประกาศว่า สหรัฐฯ จะไม่มีวันรับรองการผนวกดินแดนของยูเครนเข้าเป็นของรัสเซีย ไบเดนยังระบุอีกว่า สหรัฐฯ จะประกาศการคว่ำบาตรรัสเซียเพิ่มเติม อันเป็นผลมาจากการผนวกดินแดนทั้ง 4 แคว้นดังกล่าว
“ผมจะพูดในสิ่งนี้ให้ชัด สหรัฐฯ จะไม่มีวัน ไม่มีวัน ไม่มีวันรับรองคำกล่าวอ้างของรัสเซีย เหนือดินแดนอันอยู่ภายใต้อำนาจอธิปไตยยูเครน” ไบเดนกล่าว ทั้งนี้ ปูตินได้ลงนามในกฤษฎีกา 2 ฉบับ เมื่อวานนี้ (29 ก.ย.) เพื่อรับรองการเป็นเอกราชของซาปอริซเซียและเคอร์ซอน ปูทางไปสู่การผนวกดินแดนทั้ง 2 แคว้นเข้าเป็นของรัสเซีย เช่นเดียวกันกับโดเนตสก์และลูฮานสก์ ที่รัสเซียรับรองเอกราชไปก่อนหน้านี้
เอกสารที่เผยแพร่บนสื่อทางการของรัสเซียระบุว่า ความเป็นอิสระของทั้ง 2 แคว้น มีความชอบธรรมตามกฎหมายระหว่างประเทศ และ “เป็นไปตามหลักการที่มีอยู่ในกฎบัตรสหประชาชาติ” อย่างไรก็ตาม อันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติ กล่าวว่าการผนวกดินแดนของประเทศใดๆ ที่มีพื้นฐานมาจากการใช้กำลังนั้น เป็นการละเมิดกฎบัตรของสหประชาชาติและกฎหมายระหว่างประเทศ พร้อมกับการกล่าวย้ำว่ามันเป็น “การยกระดับที่เป็นอันตราย” ที่ “ไม่มีที่อยู่ที่ยืนในโลกสมัยใหม่” กูเตอร์เรสกล่าว
ในการต่อสายโทรศัพท์พูดคุยกับปูติน เรเจป ทายยิป แอร์โดอัน ประธานาธิบดีตุรกี ได้กล่าวแสดงความไม่เห็นด้วยต่อแผนดังกล่าว โดยแอร์โดอันเรียกร้องให้ผู้นำรัสเซียลดความตึงเครียด และเปิดให้มีโอกาสในการเจรจาสันติภาพกับยูเครนอีกครั้ง ทั้งนี้ ตุรกีและสหประชาชาติได้พยายามเป็นสื่อกลางในการเจรจาระหว่างรัสเซียและยูเครนในอดีต ซึ่งประสบความสำเร็จในการบรรลุข้อตกลงเบื้องต้น เพื่อดำเนินการส่งออกธัญพืชผ่านทะเลดำอีกครั้ง
มีรายงานว่าในกรุงมอสโกเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาว่า ทางการรัสเซียมีการเตรียมการสำหรับการประกาศผนวกดินแดนโดยปูติน โดยทางการรัสเซียได้ทำการจัดเวทีสำหรับคอนเสิร์ตที่จัตุรัสแดงของกรงุมอสโก พร้อมประดับงานด้วยป้ายประกาศการผนวกดินแดนทั้ง 4 แคว้นให้เป็นส่วนหนึ่งของรัสเซีย
การจัดงานดังกล่าว มีลักษณะที่เคยเกิดขึ้นแบบเดียวกัน กับการผนวกคาบสมุทรไครเมียทางใต้ของยูเครนในปี 2557 ตามมาด้วยการลงประชามติในลักษณะเดียวกัน อย่างไรก็ดี การผนวกดินแดนไครเมีย ไม่เคยได้รับการยอมรับจากประชาคมระหว่างประเทศในบรรดารัฐส่วนใหญ่ และจะไม่ได้รับการยอมรับจากประชาคมโลกในกรณีผนวก 4 แคว้นยูเครนครั้งนี้เป็นของตนเอง
ถึงแม้ว่าชาติตะวันตกจะออกมากล่าวอะไรก็ตาม แต่รัฐสภาทั้งสองของรัสเซียจะให้สัตยาบันอย่างเป็นทางการในสัปดาห์หน้า ทั้งนี้ ปูตินคาดหวังว่าการผนวกดินแดนของยูเครนเข้ามาเป็นของรัสเซีย จะสามารถใช้เป็นข้อโต้แย้งว่า ดินแดนของรัสเซียกำลังถูกโจมตีจากอาวุธของชาติตะวันตก ซึ่งอาจจะส่งผลให้รัฐบาลชาติตะวันตกบางแห่ง หยุดการส่งความความช่วยเหลือทางทหารแก่ยูเครนลง
อย่างไรก็ดี ยูเครนยืนยันว่าการผนวกดินแดน จะไม่เปลี่ยนแปลงอะไรในพื้นที่สนามรบไป โดยการผนวกดินแดนเกิดขึ้นหลังจากการลงประชามติตามแบบฉบับของตนเอง ทั่วทั้ง 4 แคว้นเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ทั้งนี้ รัสเซียอ้างว่าการลงคะแนนเสียงนั้นยุติธรรม และส่งผลให้เกิดการลงคะแนนแลนด์สไลด์โดยสมบูรณ์ เพื่อสนับสนุนให้เกิดการเข้าร่วมกับทางรัสเซีย แต่การลงประชามติดังกล่าวกลับไม่มีการตรวจสอบอย่างเป็นอิสระ และมีรายงานเกี่ยวกับผู้คนที่ถูกข่มขู่ให้ลงคะแนนเสียง โดยทหารรัสเซียติดอาวุธจำนวนมาก
โวโลดีเมอร์ เซเลนสกี ประธานาธิบดียูเครน ออกมากล่าวว่า “การลงประชามติที่ปลอมเปลือก” นั้นไร้ค่า ในขณะที่ มิไคโล โปโดลยัก ที่ปรึกษาประธานาธิบดียูเครน เรียกว่ารัสเซียใช้ “ความรุนแรงในวงกว้าง” พร้อมระบุว่า “ลองนึกภาพดูว่า... มีรถถังของกองทัพที่ยึดครองอยู่ และในบ้านและอพาร์ตเมนต์ของผู้คนที่ยังไม่ได้จากไป... ทหารที่มีอาวุธกำลังเผชิญหน้ากับพวกเขาและพูดว่า 'โหวต!'”
ที่มา:
