เมื่อปลายสัปดาห์ที่แล้ว จาซินดา อาร์เดิร์น อดีตนายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์ ออกมาระบุว่า เธอไม่เหลือ “กำลังแรงสำรอง” ในการเดินหน้านำประเทศได้อีกต่อไป หลังจากเธอบริหารประเทศผ่านเหตุการณ์ภูเขาไฟระเบิด การโจมตีโดยกลุ่มก่อการร้ายที่รุนแรงที่สุดในประวัติศาตร์ประเทศ และการระบาดของโควิด-19
พรรคแรงงานภายใต้การนำของอาร์เดิร์นประสบกับคะแนนนิยมที่ร่วงต่ำลงมากขึ้นเรื่อยๆ จากผลสำรวจตลอดช่วงเวลา 2 ปีให้หลังมานี้ รัฐบาลอาเดิร์นยังประสบกับการบริหารงานภายใต้ภาวะเงินเฟ้อ การก่อตัวของภาวะเศรษฐกิจถดถอย และการกลับมามีกระแสของพรรคอนุรักษนิยมซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้าน
อาเดิร์นปรากฏตัวต่อสาธารณะในฐานะนายกรัฐมนตรีล่าสุดเมื่อช่วงต้นวันพุธนี้ (25 ม.ค.) หลังจากการเดินทางออกมาจากอาคารรัฐสภา พร้อมกันด้วยผู้คนที่มารอมุงดู ก่อนที่จะมีเสียงปรบมือยกย่องให้แก่เธอโดยไม่ได้มีการนัดหมาย
ฮิปกินส์ซึ่งเป็นอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการภายใต้รัฐบาลของอาเดิร์น อีกทั้งยังเป็นรัฐมนตรีกำกับดูแลการตอบรับสถานการณ์การระบาดใหญ่ของโควิด-19 นิวซีแลนด์ ได้เข้ามารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนใหม่ของประเทศ โดยเขามีภารกิจหลักคืออการฟื้นคืนคะแนนนิยมของพรรคแรงงาน ก่อนที่นิวซีแลนด์จะมีการเลือกตั้งทั่วไปครั้งต่อไปในช่วงดือน ต.ค.นี้
ฮิปกินส์ซึ่งมีชื่อเล่นว่า “ชิปปี้” เป็นพ่อของลูกทั้งสอง เขาเรียกตัวเองว่าเป็น “ชาวกีวี (ชาวนิวซีแลนด์) ปกติธรรมดา” จากภูมิหลังของเขาที่เกิดในครอบครัวชนชั้นแรงงาน ซึ่งชอบการกินซอสเซจโรลและการปั่นจักรยานไปทำงาน
“โควิด-19 และการระบาดใหญ่ระดับโลกได้สร้างวิกฤตการณ์ด้านสาธารณสุข ตอนนี้มันได้สร้างวิกฤตด้านเศรษฐกิจ และนั่นจะเป็นการให้ความสนใจหลักของรัฐบาล” ฮิปกินส์ระบุกับสื่อก่อนหน้าการสาบานตนเข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนใหม่ของประเทศ
ที่มา: