ไม่พบผลการค้นหา
3 ตำรวจชลบุรี ยื่นหนังสือขออัยการร่วมสอบสวนคดีรีดเงิน 140 ล้าน ตาม พ.ร.บ.อุ้มหายฯ

วันที่ 22 มิ.ย. 2566 พ.ต.ท.เสถียร รัชพงษ์ไทย อดีต รองผู้กำกับการสืบสวนสอบสวน สภ.หนองขาม จ.ชลบุรี พร้อมด้วย พ.ต.ท.นครราช นนสีลาด อดีต สว.(สอบสวน) สภ.หนองขาม จ.ชลบุรี และ ร.ต.อ.สมบุญ บุดดาเลิศ อดีตรอง สว.สส.สภ.พลูตาหลวง จ.ชลบุรี ผู้ถูกกล่าวหา ในข้อหา ม.157 ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ม.149 ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งรัฐสมาชิกสภาจังหวัด หรือสมาชิกสภาเทศบาล เรียกรับหรือยอมจะรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยมิชอบ เพื่อกระทำการหรือไม่กระทำการอย่างใดในตำแหน่งไม่ว่าการนั้นจะชอบหรือมิชอบด้วยหน้าที่ ม.309 ข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใดไม่กระทำการใดหรือจำยอมต่อสิ่งใดโดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิตร่างกายเสรีภาพชื่อเสียงหรือทรัพย์สินของผู้ถูกข่มขืนใจ จากกรณีรีบทรัพย์แก๊งเว็บพนัน จำนวน 140 ล้าน เดินทางมาพร้อมทนายความ เพื่อยื่นหนังสือ ให้กับ กุลธนิต มงคลสวัสดิ์ อธิบดีอัยการสำนักงานการสวบสวน ที่ สำนักงานการสอบสวน ตลิ่งชัน 

โดยทั้ง 3 ได้ยื่นสำเนาเอกสารคำร้องเรียนที่จะยื่นต่ออัยการให้กับผู้สื่อข่าว ก่อนที่จะขึ้นไปพบอธิบดีฯ บอกว่า จะลงมาให้สัมภาษณ์ในภายหลัง 

โดยในเอกสารมีเนื้อความว่า ทั้ง 3 คน ในฐานะผู้ถูกกล่าวหาคดีนี้ ไม่ได้รับความเป็นธรรมจากการสอบสวน เนื่องจากกระบวนการสอบสวนของตำรวจตั้งแต่ต้นไม่ได้ดำเนินการตาม พ.ร.บ.อุ้มหายฯ มาตรา 31 วรรค 3 ที่กำหนดขั้นตอนการดำเนินคดีว่าต้องแจ้งเหตุให้พนักงานอัยการทราบ เพื่อให้อัยการตรวจสอบหรือกำกับการสอบสวนทันที จึงมาร้องขอความเป็นธรรมจากอธิบดีอัยการ สำนักงานการสอบสวน ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหายในกรุงเทพมหานคร เพื่อขอให้เข้ามาตรวจสอบการสอบสวนว่าเป็นไปตามที่กฎหมายกำหนดไว้หรือไม่

พร้อมอ้างถึงการให้สัมภาษณ์ของ “ ผู้บังคับบัญชาระดับสูงของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ” บอกว่าจะทำให้ถูกขั้นตอนตาม พ.ร.บ.อุ้มหายฯ ทั้งยังมีการกล่าวอ้างพฤติการณ์ในการกระทำความผิดของกลุ่มผู้ต้องหา ผิดตาม พ.ร.บ.อุ้มหายฯ ฐานกระทำให้บุคคลสูญหาย แต่ในกระบวนการสอบสวน พนักงานสอบสวนกลับไม่ปฏิบัติตาม พ.ร.บ.อุ้มหายฯ เสียเอง นอกจากนี้ยังหลีกเลี่ยงไม่แจ้งข้อหาตาม พ.ร.บ.อุ้มหายฯ ให้แก่ผู้ต้องหาคนใดเลย ทั้งที่ในหนังสือรายงานเหตุอุกฉกรรจ์ระบุพฤติการณ์โดยละเอียด และมีคำให้สัมภาษณ์ของผู้บังคับบัญชายืนยันว่าการกระทำเข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.บ.ดังกล่าว แสดงให้เห็นว่าการดำเนินคดีกับพวกตนเองทั้ง 3 คน อาจไม่ชอบมาพากล

นอกจากนี้ คดีทราบเหตุที่เกิดขึ้นตั้งแต่ 15 มิถุนายน ทุกอย่าง จนถึงวันนี้เป็นเวลากว่า 7 วันแล้ว การที่พนักงานสอบสวนยังไม่ได้แจ้งเหตุแห่งคดีให้อัยการทราบ แสดงให้เห็นเจตนาในการจงใจไม่ปฏิบัติตามกฎหมายนี้ จึงมีหนังสือฉบับนี้เพื่อขอความเป็นธรรมให้อธิบดีอัยการสำนักงานการสอบสวน ดำเนินการให้มีอัยการเข้ามาร่วมการสอบสวนในครั้งนี้ด้วย 

พร้อมบอกว่านอกจากหนังสือฉบับนี้แล้ว ทั้ง 3 คนได้มีหนังสือถึงสำนักงานตำรวจแห่งชาติเพื่อมีคำสั่งให้พนักงานสอบสวนผู้รับผิดชอบในคดีนี้ปฎิบัติตาม พ.ร.บ.อุ้มหายฯ อีกทางหนึ่ง

ด้าน พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงกรณีดังกล่าวว่าเป็นเรื่องเข้าใจผิดของกลุ่มตำรวจที่เป็นการตีความข้อกฎหมายไปอีกแนวทางหนึ่ง เนื่องจากกลุ่มผู้ต้องหาไม่เห็นสำนวนทั้งหมด อีกทั้งชุดสอบสวนยังได้มีการแจ้งข้อหาปล้นทรัพย์อีกหนึ่งข้อหา ซึ่งยืนยันว่าการดำเนินการของพนักงานสอบสวนเป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมายทุกอย่าง โดยได้มีการแจ้งความตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ และมาตรา 149 เป็นเจ้าหน้าที่รัฐเรียกรับผลประโยชน์ไปแล้ว

ส่วน พ.ร.บ.อุ้มหาย หลังจากนี้จะต้องมีการหารือร่วมกับอัยการ เพราะยังมีบางส่วนของข้อกฎหมายที่อาจจะไม่เข้าข่ายการกระทำความผิด ซึ่งที่ผ่านมาชุดทำงานได้มีการทำคดีบ้านเด็กที่จังหวัดสระบุรี ซึ่งเข้าข่าย พ.ร.บ.อุ้มหาย เป็นคดีแรก ส่วนคดีตบทรัพย์ 140 ล้านบาท จะรับเป็นคดีที่ 2 ในประเทศ หากครบองค์ประกอบในการกระทำความผิด ซึ่งเรื่องนี้จะต้องหารือกับอธิบดีอัยการอีกครั้งหนึ่ง

อย่างไรก็ตาม พล.ต.อ.สุรเชษฐ์มองว่าการที่มี พ.ร.บ.อุ้มหาย ออกมา ก็ยังพบว่าตำรวจยังต้องมีการทำความเข้าใจเรื่องนี้เป็นพิเศษเพราะเป็นกฎหมายใหม่ แต่ถึงแม้กลุ่มนายตำรวจจะไปร้องอธิบดีอัยการก็สามารถทำได้เพราะเป็นสิทธิ์ในการต่อสู้คดี 

เบื้องต้นการทำคดีตบทรัพย์ 140 ล้านบาท ยังไม่เข้าข่าย พ.ร.บ.อุ้มหาย จึงยังไม่มีการแจ้งความกับตำรวจชุดดังกล่าว โดยสัปดาห์หน้าตำรวจจะมีการออกหมายจับผู้ที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม ส่วนนายบอยที่ขณะนี้อยู่ระหว่างหลบหนี ตำรวจจะเร่งติดตามตัวมาดำเนินคดี ถึงแม้ว่าจะมีการประสานเข้ามามอบตัวแต่ก็ต้องไม่มีเงื่อนไข

ส่วน พล.ต.ต.กัมพล ลีลาประภาภรณ์ อดีตผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี ซึ่งจะมีการชี้แจงเป็นลายลักษณ์อักษรภายใน 5 วัน ขณะนี้ยังไม่ส่งคำให้การมาให้พนักงานสอบสวน ซึ่งจะครบกำหนดในวันจันทร์หน้า

ส่วนที่มีกระแสข่าวว่าเว็บไซต์การพนันของนายเป้ มีการจ่ายเงินให้นายตำรวจอักษรย่อ จ.จาน เดือนละ 1 ล้านบาท พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ยืนยันว่า ส่วนตัวไม่เคยรู้จักนายเป้ และได้ปฏิญาณตน สาบานกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ไว้ว่าใครทำชั่วก็จะจับให้หมด อีกทั้งตนเป็นผู้ก่อตั้งศูนย์และปราบปรามผู้ต้องหาที่เกี่ยวข้องกับเว็บพนันต่างๆ พร้อมย้ำว่าไม่มีรองผู้บัญชาการหรือผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติคนไหน เข้าไปเกี่ยวข้องกับเรื่องดังกล่าวอย่างแน่นอน