ต่างประเทศ
‘ไบเดน’ ป้องคำตัวเรียก ‘สี’ เผด็จการ เชื่อไม่กระทบสัมพันธ์ หวังพบหน้ากันในอนาคต
ในระหว่างการแถลงข่าวร่วมกับ นเรนทรา โมดี นายกรัฐมนตรีอินเดีย เมื่อวันพฤหัสบดี (22 มิ.ย.) ไบเดนกล่าวว่าคำพูดที่ตรงไปตรงมาของเขาเกี่ยวกับจีนนั้น “ไม่ใช่สิ่งที่ผมจะไปเปลี่ยนแปลงอะไรมันมากนัก” พร้อมกันนี้ ไบเดนยังกล่าวอีกว่า “ผมคาดว่าจะพบกับประธานาธิบดีสีในอนาคตอันใกล้นี้ และผมไม่คิดว่ามันจะมีผลที่ตามมาอะไรอย่างแท้จริง”
ไบเดนแสดงความคิดเห็นว่าสีเป็น "เผด็จการ" ในงานระดมทุนหาเสียงที่มลรัฐแคลิฟอร์เนียเมื่อต้นสัปดาห์ โดยไบเดนบรรยายว่าผู้นำจีนไม่ได้ทราบถึงเหตุการณ์ ที่เกี่ยวข้องกับบอลลูนสอดแนมของจีนที่ลอยเหนือสหรัฐฯ “นั่นเป็นความลำบากใจอย่างยิ่งสำหรับเผด็จการ เมื่อพวกเขาไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น” ไบเดนกล่าวในงานระดมทุน “นั่นไม่ควรจะไปในที่ที่เป็นอยู่ มันถูกพัดออกนอกเส้นทาง”
คำกล่าวดังกล่าวของไบเดนมีขึ้น 1 วัน หลังจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ เสร็จสิ้นการเดินทางไปยังกรุงปักกิ่ง และบลิงเคนเองได้กลายเป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงสุด ที่เดินทางเยือนจีนนับตั้งแต่ไบเดนเข้ารับตำแหน่งในเดือน ม.ค. 2564 โดยทั้งสองฝ่ายรายงานความสำเร็จเบื้องต้น ในการลดความตึงเครียดระหว่างการเยือนในครั้งนี้ ซึ่งคาดว่าจะเป็นรากฐานสำหรับการประชุมอย่างเป็นทางการที่เป็นไปได้ระหว่างไบเดนและสี
เมื่อวันพฤหัสบดี สถานเอกอัครราชทูตจีนในกรุงวอชิงตัน ดีซี ได้ออกการประท้วงอย่างเป็นทางการต่อความคิดเห็นของไบเดน “ด้วยคำพูดที่ไร้ความรับผิดชอบล่าสุด เกี่ยวกับระบบการเมืองของจีนและผู้นำสูงสุด ส่งผลให้ผู้คนอดไม่ได้ที่จะตั้งคำถามถึงความจริงใจของฝ่ายสหรัฐฯ” สถานเอกอัครราชทูตจีนประจำกรุงวอชิงตัน ดีซี ระบุในแถลงการณ์ “รัฐบาลและประชาชนจีนไม่ยอมรับการยั่วยุทางการเมืองใดๆ ต่อผู้นำสูงสุดของจีน และจะตอบโต้อย่างเด็ดเดี่ยว”
ก่อนหน้านี้ เซี่ยเฟิง เอกอัครราชทูตจีนประจำกรุงวอชิงตัน ดีซี ได้กล่าวกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหรัฐฯ เมื่อวันพุธ (19 มิ.ย.) ว่าพวกเขา “ควรดำเนินการอย่างจริงจังเพื่อยกเลิกผลกระทบเชิงลบ” จากสิ่งที่ไบเดนพูดหรือ “แบกรับผลที่ตามมาทั้งหมด” อย่างไรก็ดี คำพูดดังกล่าวจากทางจีนยังคงไม่ชัดเจนว่า ทางการจีนต้องการคำขอโทษจากฝ่ายบริหารของไบเดนหรือไม่ หรือผลที่ตามมาจะเป็นอย่างไร
เจ้าหน้าที่บริหารของไบเดนกล่าวในวันพุธ เพื่อปกป้องคำพูดของไบเดน โดยกล่าวว่าประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้ชี้ให้เห็นถึงความแตกต่างระหว่างระบอบประชาธิปไตยและระบอบเผด็จการของโลก โดย เจเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังสหรัฐฯ ซึ่งกล่าวว่าการปรับปรุงความสัมพันธ์กับจีนมีความสำคัญต่อการรักษาเสถียรภาพของโลก ยังได้กล่าวถึงความคิดเห็นของไบเดนในการแถลงข่าวเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาด้วย
“ด้วยความเคารพต่อความคิดเห็น ดิฉันคิดว่าประธานาธิบดีไบเดนและดิฉันต่างก็เชื่อว่า มันเป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องคงไว้ซึ่งการสื่อสาร… เพื่อขจัดความเข้าใจผิด การคำนวณผิดพลาด เราต้องทำงานร่วมกันหากเป็นไปได้” เยลเลนกล่าว “แต่เรามีความเห็นไม่ลงรอยกัน และเราก็ตระหนักดีว่าเรามีความเห็นไม่ลงรอยกัน”
ที่มา:
