ไม่พบผลการค้นหา
'ภูมิธรรม' ปัดสอนมวย 'เศรษฐา' บอกมิบังอาจไปตักเตือนนายกฯ ได้ ขอเพื่อนพรรคร่วมเข้าใจเจตนา เชื่อเป็นคนจริงใจ ตรงไปตรงมา พร้อมรับฟังคนอื่น

วันที่ 10 พ.ย. ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวถึงบรรยากาศในงานเลี้ยงดินเนอร์หัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาล เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ที่ เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ระบุว่าภูมิธรรม ได้เตือนเรื่องพูดตรงเกินไป ซึ่งผู้สื่อข่าวได้ถามว่า การพูดตรงๆสำหรับนักการเมืองไม่ดีหรือ 

ภูมิธรรม บอกว่า เป็นเรื่องที่ดี จริงๆ ตนชมนายกรัฐมนตรี ไม่ได้ติติง โดยบอกว่า ท่านนายกฯ พูดตรง อยากให้หัวหน้าพรรคร่วมทั้งหลายเข้าใจ ในจุดนี้ด้วย จริงๆ แล้วที่ท่านนายกฯ พูดไม่ได้มีเรื่องส่วนตัว หากมีอะไรขอให้เข้าใจและคุยกันถึงจะดี ท่านนายกฯ ก็หัวเราะและน้อมรับ

“ผมไม่บังอาจกล้า ไม่ตักเตือนท่านนายกฯ” แต่เป็นสิ่งที่ตนสัมผัสได้ ซึ่งท่านนายกฯ ก็บอกกับตนตลอดว่า

“พี่มีอะไรก็บอกกับผมตรงๆ ได้เลย ผมตรง ไม่รู้สึก เคลียร์ได้ ถ้าพูดผิดไปก็ขอโทษได้ ซึ่งผมก็เคยเห็นจากสิ่งที่ทำในพรรคมา 1-2 ครั้ง ว่าบางทีท่านก็พูดตรงไป ผมก็กังวลใจ แต่ผู้ใหญ่ที่รับฟังก็ไม่ได้รู้สึกอะไร เขารู้ว่าท่านนายกฯ เป็นคนจริงใจ และพร้อมที่จะพูดอย่างตรงไปตรงมา เพื่อเข้าสู่ปัญหาและแก้ไข”

ภูมิธรรม ยังระบุด้วยว่า นายกฯ ไม่ชอบความยืดเยื้อ อารัมภบท ส่วนใหญ่ท่านรู้ปัญหา คิดอะไรก็เสนอทางแก้ไขมา หากเข้าใจตรงนี้ก็จะรู้ว่าไม่ใช่จุดอ่อน แต่เป็นจุดแข็ง เหมือนที่ผู้สื่อข่าวถามว่านักการเมืองไม่ชอบหรือการพูดตรงๆ นักการเมืองก็ชอบ เพียงแต่หากเข้าใจว่านั่นคือการพูด เพื่อหาทางออกและแก้ไขปัญหา มันก็โอเค ตนก็เลยบอกท่านนายกฯ ว่าเป็นคนแบบนี้ อยากให้ทุกคนเข้าใจ 

"ท่านบอกว่าผมตักเตือน ผมไม่เคยคิดแบบนั้นเลย”


เบรคเสียงวิจารณ์ผลงานรัฐบาล 60 วันไม่คืบ

ภูมิธรรม กล่าวถึงเสียงวิจารณ์ผลงานรัฐบาล 60 วันที่อาจจะไม่มีอะไรใหม่ ว่า ทุกอย่างเริ่มต้นหมดแล้ว แต่ที่จริงเราวางไว้ 100 วัน ที่จะเห็นปรากฎการมาก ส่วนที่นายกรัฐมนตรี แถลง 60 วันเพราะอยากให้เห็นความคืบหน้าว่า 60 วันเรามีอะไรบ้าง ทั้งนี้ตนเชื่อว่าการแถลง 90-100 วันจะมีความชัดเจนมากขึ้น อย่างกระทรวงพาณิชย์ดำเนินการหลายเรื่องก็ยังไม่ได้มีการนำมาบอก เช่นการแก้ราคาสินค้าแพง หรือการบุกตลาดต่างประเทศเชิงรุก พร้อมย้ำว่าขออย่าพึ่งวิจารณ์ให้รอ 90 วัน รอขณะนี้รัฐบาลก็ทำงานหนักมากอยู่แล้ว และนายกรัฐฒนตรีก็บวกทุกด้าน อย่าง 21 พ.ย.นี้ก็จะประชุมร่วมระหว่างทูตพาณิชย์ทั่วโลก และ boi เพื่อรุกตลาดต่างประเทศ ฉะนั้นขอให้อดทนรอการดำเนินงานการดำเนินงานครบ 100 วัน มันจะแถลงได้อย่างเป็นรูปธรรม ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นแล้วมีอะไรบ้าง และเรื่องไหนที่ดำเนินการแล้วจะเดินหน้าอย่างไรก็จะแถลงในวันนั้น ดังนั้นขอให้ใจเย็นนิดหนึ่งก็จะเห็นภาพชัดเจนขึ้น

เมื่อถามว่า นายกรัฐมนตรีเหมือนทำงานคนเดียวและละเอียดทุกเรื่องควรจะกระจายงานบ้างหรือไม่ อาทิ เรื่องกฎหมาย เศรษฐกิจ และความมั่นคง ภูมิธรรม ชี้แจงว่า นายกรัฐมนตรี ไม่ได้แย่งงานทำคนเดียว เพราะขณะนี้นายกรัฐมนตรีได้แบ่งงานให้รองนายกฯและรัฐมนตรีก็เต็มไปหมดทุกเรื่อง ซึ่งหลายเรื่องก็อยู่ในขั้นเตรียมการ และผู้ที่ได้ รับมอบงานก็ถือว่าหนักพอสมควร เพราะต้องยอมรับว่า เราเข้ามาท่ามกลางประเทศกำลังเผชิญวิกฤตในหลายด้าน อาทิ วิกฤตการณ์โลก วิกฤตการณ์ทางการเงิน วิกฤติเศรษฐกิจของประเทศที่สั่งสมมานาน ดังนั้นต้องเข้าใจว่าสิ่งที่เรามีอยู่ก็กำลังดำเนินงาน พร้อมขอให้มองว่าเป็นเรื่องดีที่นายกรัฐมนตรีลงรายละเอียดทั้งหมด ไม่ได้แย่งงานรัฐมนตรี ไม่เช่นนั้นก็จะเป็นปัญหา พร้อมย้ำว่านายกรัฐมนตรีลงรายละเอียดทั้งหมดและสั่งรัฐมนตรีทุกเรื่อง

อย่างไรก็ตามเวลานี้คณะรัฐมนตรีก็มีเพียงแค่ 36 คน แต่อยากจะมีซัก 50-100 คน ด้วยซ้ำไปเพราะงานหนักแต่ และพร้อมเราก็ไม่ได้หวั่นไหวอะไรพร้อมสู้ เพราะนายกรัฐมนตรีเป็นผู้ถือธงนำให้เราออกพื้นที่ต่างๆ

ทั้งนี้การที่นายกรัฐมนตรีออกต่างจังหวัดบ่อยๆได้เรียนรู้และเข้าใจรวมถึงทราบปัญหาอย่างแท้จริง และที่ผ่านมาก็มีการกำชับว่าไม่ต้องตามคณะไปมากเอาเฉพาะ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเท่านั้น

เมื่อถามถึงกรณีฝ่ายค้านจ้องโจมตี รัฐบาลว่าทำงาน 60 วันไม่คืบนั้น ภูมิธรรม กล่าวว่า ไม่เป็นไร เพราะเป็นธรรมดา และตนก็พยายามบอกฝ่ายค้านว่า เราทำงานสร้างสรรค์อย่าคิดว่าเป็นรัฐบาลหรือฝ่ายค้าน ซึ่งอะไรที่รัฐบาลทำและจะเป็นผลดีกับอนาคตก็อย่าซีเรียส อย่ามองทุกอย่างเป็นการเมืองหมด แต่สามารถออกความเห็นได้ เพราะจะได้เป็นกระจกสะท้อนรัฐบาลด้วยว่าทำอะไร และอาจมีการมองยังไม่เข้าใจฉะนั้นก็ต้องทำให้เกิดความเข้าใจ

ทั้งนี้ ภูมิธรรม เปิดเผยว่า นายกรัฐมนตรีสั่งการเสมอว่า การดำเนินงานที่บอกว่าเป็นรูปธรรมอย่างนั้นอย่างนี้จะต้องมีการประเมิน และที่ผ่านมานายกรัฐมนตรีได้ติดตามประเมินผลโดยตลอด ฉะนั้นหลายสิ่งเกิดขึ้นแล้วหลังจากนี้รอดูแล้วมาวัดกันกัน

“รัฐบาลมีโอกาส 4 ปี ก็คอยดูไป ถ้า 4 ปีคิดว่าไม่สามารถทำอะไรได้เลย มาเสวยอำนาจเสวยสุขอย่างเดียว งวดหน้าท่านก็พิจารณา และเราก็พร้อมให้ประชาชนพิจารณา แต่ผมเชื่อว่านับตั้งแต่ 100 วันทุกอย่างจากค่อยๆปรากฏให้เห็น มันยาก สำหรับเราที่เข้ามาแก้ปัญหาฐานรากให้มันดี เพราะฉะนั้นการจะแก้ปัญหาฐานรากสังคมไทยเรานั้นมันหลากหลายและมีอุปสรรคมากมาย หน้าที่รัฐบาลก็คืออดทนชี้แจงทำความเข้าใจ แล้วก็ปรับปรุงให้สอดรับกับอย่างที่คิด เพื่อให้เป็นประโยชน์กับประชาชนมากที่สุด”

ส่วนมั่นใจว่ารัฐบาลจะสอบผ่านหรือไม่ ภูมิธรรม ตอบด้วยน้ำเสียงมั่นใจว่า มั่นใจแน่นอนครับ เชื่อว่าความตั้งใจเรา 100% เราเอาภูมิความรู้และประสบการณ์ที่เราทำซึ่งเรามีความสามารถ แต่หากจะถามว่ามั่นใจหรือไม่มั่นใจต้องให้ประชาชนเป็นคนตอบ