ต่างประเทศ
เผด็จการเมียนมาเหิมหนัก ยิงถล่มพร้อมเผาบ้านประชาชนนับร้อยในรัฐชีน
กองกำลังพิทักษ์แผ่นดินชีน (CDF) ระบุกับสำนักข่าว Myanmar Now ว่า ตลอดช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา กองทัพเผด็จการเมียนมาได้เผาบ้านเรือนจำนวนร้อยหลังในเมืองตันตะลางของรัฐชีน โดยการบุกเผาบ้านนับร้อยหลังในครั้งนี้ของกองทัพเมียนมา เกิดขึ้นหลังจากที่เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา มีทหารของกองทัพเมียนมาถูกลอบโจมตีและเสียชีวิตจำนวน 7 ราย
การลอบโจมตีทหารของเผด็จการเมียนมาโดยกองกำลังพิทักษ์แผ่นดินชีน ทำให้กองทัพเมียนมาตอบโต้ด้วยการถล่มยิงปืนใหญ่ในเมืองตันตะลาง อย่างไรก็ดี จากรายงานระบุว่าการยิงปืนใหญ่ในครั้งนี้กว่า 2 ชั่วโมงติดต่อกันกลับพลาดเป้า และไม่สามารถสังหารนักรบของกองกำลังพิทักษ์แผ่นดินชีนเลยแม้แต่รายเดียว ทั้งนี้ มีทหารของเผด็จการเมียนมาอย่างน้อย 2 ราย ถูกปืนสไนเปอร์ยิงเสียชีวิต และทหารอีก 5 รายเสียชีวิตจากการปะทะกัน
โฆษกของกองกำลังพิทักษ์แผ่นดินชีนคาดการณ์ว่า กองทัพเมียนมาตัดสินใจเผาบ้านเรือนกว่าร้อยหลัง หลังจากกองทัพเมียนมาเสียกำลังพลของตนเองไปหนึ่งรายที่ถูกสังหารโดยกองกำลังพิทักษ์แผ่นดินชีน ทั้งนี้ มีรายงานว่าโบสถ์แห่งหนึ่งในเมืองตันตะลางถูกปืนใหญ่ยิงถล่มจนได้รับความเสียหาย
ตะลันตางเป็นเมืองหนึ่งในรัฐชีน ที่ได้รับผลกระทบจากการโจมตีของกองทัพเมียนมาอย่างหนัก โดยมีรายงานระบุว่า มีประชาชนแล้วอย่างน้อย 8,000 ราย ต้องอพยพออกนอกที่อยู่ของตนเอง จากการคุกคามของกองทัพเมียนมา นอกจากนี้ ยังมีบ้านเรือนกว่า 900 หลัง และศาสนสถานอีก 19 แห่ง ถูกกองทัพเมียนมาเผาทำลายจนราบคาบ
ทั้งนี้ กองทัพเมียนมาไม่ได้ออกแถลงการณ์ใดๆ เพิ่มเติมถึงเหตุการณ์การเผาโจมตี และการมีเจ้าหน้าที่ของกองทัพเมียนมาเสียชีวิตตลอดช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยก่อนหน้านี้ กองทัพเมียนมาได้กล่าวหาว่าบ้านเรือนที่ถูกเผานั้น เกิดขึ้นจากฝีมือของกองกำลังพิทักษ์แผ่นดินชีนเอง ถึงแม้ว่าจะมีหลักฐานชี้ชัดว่าการเผาทำลายเกิดขึ้นจากฝีมือของเผด็จการเมียนมา
กองกำลังพิทักษ์แผ่นดินชีนเป็นอีกหนึ่งกองกำลังชนกลุ่มน้อยที่มีฐานอำนาจเข้มแข็งมากขึ้นเรื่อยๆ ถึงแม้จะถูกกองทัพเมียนมาโจมตีมาโดยตลอดหลังจากการรัฐประหารในวันที่ 1 ก.พ. 2564 ความเข้มแข็งของกองกำลังพิทักษ์แผ่นดินชีนเป็นอีกหนึ่งสัญลักษณ์ที่สะท้อนให้เห็นถึงอำนาจของกองทัพเมียนมา ที่ยังไม่สามารถสถาปนาการปกครองประเทศได้อย่างเด็ดขาด ท่ามกลางการลุกฮือต่อต้านรัฐประหารของประชาชนและชนกลุ่มน้อยทั่วประเทศ
ที่มา:
