วันที่ 17 มี.ค. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม กล่าวถึงการลงพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ว่า ก็มีความสุข เพราะไปไหนมองแล้วสบายตา และก็เคยมาหลายครั้งแล้วสมัยเป็นทหารซึ่งมาอยู่นานที่สุดจึงคุ้นเคยกับที่นี่ แล้ววันนี้ก็เห็นหลายอย่างเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น และวันนี้ดีใจที่ได้พบ ได้เห็นหลายกลุ่มหลายฝ่ายที่มีการพัฒนาตัวเองขึ้นมา อาทิ เรื่องการจัดการขยะ พลังงาน สุขภาพ ทุกอย่างมันดีหมดแล้ว วันนี้สิ่งสำคัญจะทำอย่างไรให้ทุกอย่างมันเดินหน้าไปได้ ทุกอย่างจะเดินได้ก็ต้องด้วยความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง ต้องช่วยกันคิดช่วยกันทำไม่ขัดแย้งกัน
พร้อมย้ำว่า วันนี้มาในฐานะนายกรัฐมนตรี ก็ยังต้องทำงานต่อในช่วงนี้ แล้วเมื่อเช้าก็ได้ทำกุศลร่วมกันในเรื่องของการทำเรื่องชาติตระการของครูบาศรีวิชัย ซึ่งตนก็นับถือและได้ห้อยเหรียญท่านอยู่ ก็ทุกอย่างประเทศไทยมีพร้อมหมดทุกอย่างแล้ว เหลือแต่ว่าเราจะทำอย่างไรให้มันพร้อมแล้วไปด้วยกันให้ได้ ก็ลดความขัดแย้ง เห็นต่างก็เห็นได้ ไม่เป็นไรหรอกแต่อย่าขัดแย้งกันมากนักแล้วกัน ก็พอจะไปได้
พร้อมยืนยันว่า พระได้ให้พรโดยให้มือหายเจ็บไวๆ ซึ่งก็น่าจะเริ่มดีขึ้นแล้ว เมื่อเช้าแพทย์ตรวจดูก็เริ่มดีขึ้นแล้ว แต่มันก็ยังมีตรงกลางฝ่ามือที่ต้องปิดและต้องป้องกันไม่ให้เชื้อเข้าไปข้างใน
เมื่อถามย้ำว่า พระได้ให้พรอย่างไรบ้างเพราะยังต้องอยู่ตรงนี้อีกนาน พล.อ.ประยุทธ์ ระบุว่า ให้พรขอให้มีความสุข หายเจ็บหายไข้หายป่วย และมีกำลังใจในการทำงานเพื่อประเทศชาติต่อไป
ส่วนที่ช่วงเช้ามีหญิงวัยกลางคนถามว่า จะยุบสภาเมื่อไหร่นั้น พล.อ.ประยุทธ์ ระบุว่า ป้าเขาก็ถามไปอย่างงั้นแหละ
เมื่อถามว่า ลงพื้นที่ 3 วันเห็นบอกว่ามีล้มมีเซ พล.อ.ประยุทธ์ ระบุว่า มันก็ต้องมีบ้าง คนแก่ละมั้ง บางทีเดินเร็วใจมันร้อน
เมื่อถามว่า เอาพลังที่ไหนมาในการลงพื้นที่ต่อเนื่องอย่างนี้ โดยไม่ได้พักได้ผ่อนหรือเปลี่ยนรองเท้าแล้วมีพลังเยอะ นายกฯ ระบุว่า เรามีกำลังใจอยู่แล้ว กำลังใจทำเพื่อคนอื่น เพื่อชาติเพื่อแผ่นดิน ฉันทนได้หมด
นอกจาก พล.อ.ประยุทธ์ ยังกล่าวถึงกรณีที่ชาวเชียงใหม่ฟ้องนายกฯ ค่าฝุ่นที่เกิดมาตรฐาน ว่า ตนทราบแล้ว และจากที่ตรวจสอบกับผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เขาก็รายงานว่าจุดที่แดงที่เป็นการเผามีประมาณ 100 กว่าจุดเท่านั้นเอง แต่ส่วนใหญ่มาจากข้างนอกที่มีกว่า 2-3 พันแห่ง ซึ่งก็ต้องเจรจากับเขา หากเจอตรงไหนก็ต้องบินเอาน้ำไปดับหรือให้ชาวบ้านไปดับ ซึ่งจากเดิมมี 700-800 แห่ง แต่ตอนนี้เหลือ 100 กว่าแห่งเท่านั้นเอง แต่ขอร้องประชาชนว่าอย่าเผาเลย เพราะสาเหตุอย่างเดียวคือการเผา รวมถึงเรื่องมลพิษจากรถ แต่ถึงอย่างไรเราก็ต้องเตรียมการระยะยาวคือรถไฟฟ้า และการแปรรูปวัชพืช โดยไม่ต้องเผาซึ่งรัฐบาลต้องสนับสนุนตรงนี้ต่อไป ซึ่งขณะนี้กระทรวงมหาดไทยได้รับเรื่องไปแล้ว
เมื่อถามว่า แผนจากมติคณะมนตรี (ครม.) ในเรื่องลดฝุ่นควันจะเอาอยู่หรือไม่ นายกฯ ระบุว่า ถ้าทุกคนช่วยกันเอาอยู่แน่นอน เพราะถ้าคนไม่ร่วมมือมันจะทำได้หรือไม่
เมื่อถามต่อว่า จะถึงขั้นต้องปิดป่าหรือไม่ นายกฯ ระบุว่า มันไม่น่าต้องขนาดนั้นหรอกมั้ง ป่ามันปิดไม่ได้หรอก เพราะมันจะกระเทือนหลายอย่าง อาทิ การท่องเที่ยว แต่สิ่งสำคัญคืออย่าจุดไฟในป่า เขาห้ามก็อย่าเผา ตอนนี้ห้ามแต่ก็เผา ซึ่งกฎหมายก็มีอยู่และคนที่ไม่อยากเจอฝุ่น Pm.2.5 เขาก็ว่านายกฯ อีกว่าไม่กำกับดูแล