ไม่พบผลการค้นหา
รัฐสภาของแคนาดาลงคะแนนเสียงเห็นชอบกล่าวหาการกระทำของรัฐบาลเมียนมาต่อชาวโรฮิงญาว่าเป็นการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ พร้อมเรียกร้องให้วิกฤตผู้ลี้ภัยชาวโรฮิงญาเข้าสู่การพิจารณาคดีของศาลอาญาระหว่างประเทศ

ส.ส.แคนาดาลงคะแนนเสียงเห็นชอบอย่างเป็นเอกฉันท์ ในการเรียกการกระทำของรัฐบาลเมียนมาต่อชาวโรฮิงญาว่าเป็นการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ พร้อมเรียกร้องให้คณะมนตรีความมั่นคงของสหประชาชาตินำเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับชาวโรฮิงญาเข้าสู่การพิจารณาคดีของศาลอาญาระหว่างประเทศ และให้ดำเนินคดีกับนายพลของเมียนมาหลายคนในข้อหาฆ่าล้างเผ่าพันธุ์

นางคริสเตีย ฟรีแลนด์ รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศของแคนาดาบอกว่าการลงมติของรัฐสภาแคนาดาครั้งนี้เพื่อแสดงให้ประชาคมโลกเห็นว่าสิ่งที่เกิดขึ้นกับชาวโรฮิงญาเป็นเรื่องที่น่าเศร้าและน่ากลัวมากขนาดไหน รวมทั้งเพื่อให้ประชาคมโลกหันมาให้ความสนใจในการนำตัวผู้ที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมารับผิดชอบและเพื่อนำความยุติธรรมมาสู่ชาวโรฮิงญา

มติของรัฐสภาแคนาดาถือว่าเป็นไปในทิศทางเดียวกันกับท่าทีของสหประชาชาติที่ได้สรุปไว้ในรายงานเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมาว่า มีข้อมูลหลักฐานเพียงพอที่จะยื่นฟ้องนายพลระดับสูงในกองทัพเมียนมา รวมถึงพลเอกอาวุโสมินอ่องหล่ายน์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุดของเมียนมา ต่อศาลอาญาระหว่างประเทศ หรือไอซีซี ในข้อหาฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ และสหประชาชาติยังได้ตำหนิ อองซาน ซูจี มุขมนตรีแห่งรัฐของเมียนมาอย่างรุนแรงว่า เธอไม่ใช้ตำแหน่งหัวหน้ารัฐบาล หรือแม้แต่ “อำนาจทางศีลธรรม” ในการหยุดยั้งความรุนแรง และการละเมิดสิทธิ์ชาวโรฮิงญาที่เกิดขึ้น ซึ่งการเพิกเฉยของรัฐบาลพลเรือนเมียนมามีส่วนให้เกิดอาชญากรรมที่ชั่วร้ายเช่นนี้

วิกฤตชาวโรฮิงญาที่เกิดขึ้นในรัฐยะไข่ของเมียนมาทำให้มีชาวโรฮิงญาเสียชีวิตหลายพันคน และต้องลี้ภัยเข้าไปยังบังกลาเทศกว่า 700,000 คน โดยชาวโรฮิงญาที่ลี้ภัยไปยังบังกลาเทศให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่ากองทัพเมียนมาออกเข่นฆ่า ข่มขืน ทรมาน และเผาบ้านเรือนชาวโรฮิงญาจำนวนมาก แต่กองทัพเมียนมาปฏิเสธข้อกล่าวหาทั้งหมด และระบุว่าปฏิบัติการปราบปรามชาวโรฮิงญาเป็นส่วนหนึ่งในภารกิจปราบปรามการก่อการร้ายเท่านั้น

ข่าวที่เกี่ยวข้อง: