สมาคมการค้าผู้ขายส่งยาสูบ จัดประชุมวิสามัญเร่งด่วน ร่วมกับผู้ค้าส่งยาสูบทั่วประเทศ กว่า 200 ราย เพื่อหารือแนวทางแก้ปัญหาจากการปรับโครงสร้างอัตราภาษียาสูบ ตาม พ.ร.บ.สรรพสามิต พ.ศ.2560 ซึ่งมีผลให้ราคาบุหรี่ ซองละไม่เกิน 60 บาท เสียภาษีร้อยละ 20 และบุหรี่เกิน 60 บาท เสียภาษีร้อยละ 40 ทำให้ราคาบุหรี่ไทยปรับสูงขึ้น และมียอดขายลดลงเกือบครึ่งในเวลาเพียง 2 เดือนหลังบังคับใช้กฎหมาย 

ที่ประชุมไม่เห็นด้วยกับโครงสร้างภาษีใหม่ และเชื่อว่า ไม่ช่วยลดนักสูบหน้าใหม่ได้จริง แต่กลับเป็นเปิดโอกาสให้บุหรี่ต่างประเทศได้ประโยชน์ เข้าถึงผู้บริโภคง่ายด้วยราคาขายที่ต่ำกว่าความเป็นจริง ทั้งยังเสียภาษีน้อยกว่าบุหรี่ไทย ทำให้รัฐสูญเสียรายได้จากการนำส่งของโรงงานยาสูบ กว่า 13,000 ล้านบาท 

นายกิตติ แสงวัฒนะ นายกสมาคมการค้าผู้ขายส่งยาสูบ ยอมรับ อัตราภาษีใหม่กระทบอุตสาหกรรมยาสูบทั้งระบบ เกษตรกรเดือดร้อน 5 - 6 แสนครอบครัว ยังไม่รวมส่วนอื่นๆ โดยแนะให้กลับไปใช้อัตราภาษีเดิม // ยืนยัน การคัดค้านครั้งนี้ ไม่ใช่เสียประโยชน์ แต่อยากให้รัฐทบทวนกฏหมาย เพื่อความเป็นธรรมในการแข่งขัน เกิดประโยชน์ต่อประเทศแท้จริง

ที่ผ่านมาสมาคมการค้าผู้ขายส่งยาสูบปฏิบัติตามข้อกำหนดของรัฐมาโดยตลอด โดยเฉพาะการปรับเพิ่มราคาเพื่อลดการบริโภค ขณะเดียวกันเป็นห่วงการจัดเก็บภาษีบุหรี่ต่างประเทศและการเข้ามาของบุหรี่ต่างชาติที่มากขึ้น จะกระทบโรงงานยาสูบซึ่งเป็นหน่วยงานสร้างรายได้ให้รัฐ

สำหรับข้อเสนอวันนี้ จะนำไปยื่นให้กระทรวงการคลังพิจารณาเพิ่มเติม หลังยื่นหนังสื่อร้องเรียนไปแล้วก่อนหน้านี้ และมีแผนยื่นคำร้องต่อศาลปกครองเพื่อให้ออกคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว