คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์เลือกตั้งพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วย ดร.ประพนธ์ เนตรรังษี ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม. เขต 6 และ กลุ่มเพื่อไทย nextgen ลงพื้นที่พบปะประชาชน ที่ชุมชนเคหะสถาน เคหะเจริญชัย ซึ่งเป็นชุมชนที่ตั้งเป็นสหกรณ์ และซื้อที่ดินจัดสรรเป็นหมู่บ้านของตนเอง หรือ บ้านมั่นคง โดยเป็นชุมชนตัวอย่างและเป็นชุมชนอยู่ใต้โครงการรถไฟฟ้า ที่ประสบปัญหาฝุ่นมลพิษ และเรื่องที่อยู่อาศัย 

คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่า หากเพื่อไทยได้เป็นรัฐบาลจะสานต่อในโครงการบ้านมั่นคง ที่ทางพรรคเป็นผู้ริเริ่มขึ้นสมัยรัฐบาลนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เพราะ���ป็นประโยชน์กับประชาชน และหากได้เป็นรัฐบาลจะไม่แจกบัตรคนจนแต่จะแจกบัตรมั่นคงแทน และยืนยันจะฟื้นฟูอาชีพ และเศรษฐกิจให้แน่นอน พร้อมกล่าวด้วยว่าหากเลือกเพื่อไทย จะได้ตนเอง แต่เลือกคนอื่นจะได้ฟังเพลง จึงขอให้คิดเองว่า 4 ปีที่ผ่านมาคืนความสุขให้จริงหรือไม่

ดังนั้นต้องเลือกอนาคตของเราเอง เพราะโลกทุกวันนี้สู้กันด้วยสงครามการค้าแทนการสู้รบ พร้อมประกาศว่าทุกนโยบาย หลังวันที่ 24 มี.ค. นี้จะทำอย่างแน่นอน และจะทำให้ทุกคนกระเป๋าตุง จึงอยากให้เลือก ดร.ประพนธ์ เพราะเป็นคนในพื้นที่ เพื่อยกมือเลือกคนในพรรคเพื่อไทยเป็นนายกรัฐมนตรี

จากนั้น คุณหญิงสุดารัตน์ ได้ลงพื้นที่ไป พบปะกับประชาชน ที่ศาลาชุมชนเคหะทุ่งสองห้อง 308 เขตหลักสี่ และเยี่ยมชมงานน้ำชาการกุศล “รวมน้ำใจสู่นูรุ้ลอิสลามวังใหญ่” ที่มัสยิดวังใหญ่ เขตบางกะปิ และเขตสะพานสูง

คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์เลือกตั้งพรรคเพื่อไทย กล่าวถึง การลงพื้นที่ในวันนี้ ก็เพื่อพบประชาชนและตรวจปริมาณค่าฝุ่นละออง PM 2.5 เพราะชุมชนเคหะสถานเจริญชัย เขตจตุจักร ถือเป็นชุมชนที่ได้รับผลกระทบจากการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีแดง บางซื่อ-รังสิต มานานแล้วโดยเฉพาะฝุ่นละออง ที่ลงมาใส่บ้านเรือนประชาชน แต่ยังไม่มีหน่วยงานไหนเข้ามาดูแลหรือเยียวยา ทำให้ประชาชนเสี่ยง แล้วเริ่มมีอาการป่วย

วันนี้พรรคเพื่อไทย พร้อมกับผู้สมัครได้ลงมาติดตาม และตรวจเยี่ยม โดยได้เห็นถึงปัญหา แล้วจะนำแนวทางในการแก้ปัญหาไปหารือในคณะทำงาน เพราะเห็นว่า ปัญหาสุขภาพของประชาชนเป็นสิ่งสำคัญ อีกทั้งฝุ่นละออง PM 2.5 ที่กำลังกำลังเกิดขึ้นอยู่ในขณะนี้ มีอันตรายเป็นอย่างมาก ดังนั้นพรรคเพื่อไทยจึงเรียกร้อง ให้รัฐบาลเร่งแก้ไขปัญหาหาก

แกนนำพรรคเพื่อไทย ยังกล่าวถึง การเปิดรับสมัคร ส.ส.แบบแบ่งเขตในวันพรุ่งนี้ (4 ก.พ.) ว่าพรรคเพื่อไทย ได้เตรียมความพร้อมไว้หมดแล้ว โดยจะมีผู้ใหญ่ของพรรคกระจายกันไปในจุดต่างๆ ซึ่งพลตำรวจโท วิโรจน์ เปาอินทร์ จะเดินทางไป จ.ขอนแก่น ด้านนายชัยเกษม นิติสิริ จะประจำการอยู่ที่ จ.เชียงใหม่ 

ส่วนตนเองนั้น จะนำทีมผู้สมัครไปที่อาคารกีฬาเวสน์ 2 ดินแดง และหลังจากนั้น เมื่อรับสมัครเสร็จสิ้น จะนำผู้สมัครไปกราบ พระแก้วมรกต ศาลหลักเมืองและวัดชนะสงคราม เพราะถือเป็นธรรมเนียมปฏิบัติ ที่พรรคเพื่อไทยปฏิบัติมาอย่างยาวนาน ถือเป็นการเอาฤกษ์เอาชัย 

ส่วนจะสามารถแห่เป็นขบวน ให้เครื่องขยายเสียงได้หรือไม่นั้น ต้องให้ฝ่ายกฎหมายไปศึกษาอย่างละเอียดก่อน ว่าสุ่มเสี่ยงต่อการกระทำที่ขัดต่อกฎหมายเลือกตั้งหรือไม่ 

อย่างไรก็ตาม วันที่ 8 ก.พ. 2562 พรรคเพื่อไทยจะจัดปราศรัยใหญ่ ที่สวนลุมพินี แต่ขณะนี้กำลังขออนุญาตใช้สถานที่ หากดำเนินการเรียบร้อยแล้วพรรคเพื่อไทยจะนำพาผู้สมัครทั้ง 22 เขตในกรุงเทพมหานครขึ้นเวทีปราศรัยใหญ่ 

นอกจากนี้ จะมีการแบ่งแกนนำของพรรคเพื่อไทยออกเป็น 4 ทีม เพื่อกระจายไปในจุดทั่วประเทศไทย เพื่อไปพบปะกับพี่น้องประชาชน