หมู่บ้านสองแห่งของรัสเซียต้องเร่งการอพยพประชาชนออก หลังจากเกิดเหตุการยิงถล่มระเบิดบริเวณพรมแดนของยูเครน ใกล้กันกับแคว้นเบลโกรอดของรัสเซีย โดย “คลังกระสุนเกิดเหตุไฟไหม้ใกล้หมู่บ้านทิโมโนโว” ซึ่งตั้งอยู่ห่างจากชายแดนไม่ถึง 50 กิโลเมตร ทั้งนี้ วยาเชสลาฟ กราดคอฟ ผู้ว่าการภูมิภาคระบุว่า ไม่มีเหตุรายงานกรณีผู้เสียชีวิตแต่อย่างใด
มีรายงานว่า เกิดเหตุระเบิดอย่างน้อย 4 ครั้งใกล้กันกับฐานทัพอากาศหลักเบลเบก ซึ่งตั้งอยู่บริเวณตอนเหนือของเซวาสโตปอล คาบสมุทรไครเมียที่ตกอยู่ภายใต้การยึดครองของรัสเซีย ในขณะที่ มิคาอิล ราซโวซาเยฟ ผู้ว่าการเซวาสโตปอลฝ่ายนิยมรัสเซียระบุว่า “ไม่มีรายงานความเสียหายเกิดขึ้น ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ”
ยังเคยมีระบบป้องกันภัยทางอากาศที่ถูกติดตั้งและใช้งานอยู่บริเวณเมืองเคิร์ช เมืองทางปลายสะพานเชื่อมดินแดนไครเมียเข้ากับรัสเซีย ซึ่งเป็นเส้นทางในการขนส่งเสบียงหลัก ที่ชาวยูเครนอยากจะเห็นมันถูกทำลายไปด้วย ทั้งนี้ สื่อท้องถิ่นรายงานว่าโดรนของยูเครนถูกยิงตกในบริเวณดังกล่าว
กระทรวงกลาโหมของยูเครนทวีตข้อความ หลังมีการเผยแพร่ภาพเหตุไฟไหม้ในทิโมโนโวที่กระจายออกไป พร้อมข้อความสั้นๆ ว่า “การสูบบุหรี่ทำให้คนตาย!” ก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ของทางยูเครนเคยพูดติดตลกว่า การระเบิดและยิงใส่เป้าหมายทางทหารในไครเมียที่ถูกรัสเซียยึดครองนั้นเกิดขึ้นจาก "คนสูบบุหรี่ที่ประมาทเลินเล่อ"
เหตุการณ์ยิงถล่มในวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา (18 ส.ค.) เกิดขึ้นได้ไม่นาน หลังจากการเกิดเหตุระเบิดทำลายล้างฐานทัพอากาศหลักและคลังอาวุธในแหลมไครเมีย สถานที่ที่รัสเซียยังคงทำการยึดครองอยู่ โดยหลังจากการโจมตีดังกล่าว ชาวรัสเซียจำนวนมากต้องเร่งอพยพออกจากคาบสมุทรไครเมีย ทั้งนี้ มีรายงานพบรถยนต์ขับข้ามจากทางไครเมียไปยังรัสเซียกว่า 38,000 คันในวันอังคารที่ผ่านมา (16 ส.ค.)
โวโลดีเมอร์ เซเลนสกี ประธานาธิบดียูเครน ได้ออกมากล่าวเมื่อวันพุธที่ผ่านมา (17 ส.ค.) ว่า ชาวรัสเซียที่ตื่นตระหนกได้ตระหนักแล้วว่า ไครเมีย “ไม่ใช่ที่สำหรับพวกเขา” ก่อนที่เซเลนสกีจะพูดโดยนัยว่าอาจมีการโจมตีเกิดขึ้นในอนาคตข้างหน้า ทั้งนี้ เซเลนสกีย้ำต่อประชาชนชาวยูเครนว่าให้ออกห่างจากฐานบัญชาการของศัตรู และฐานการขนส่งโลจิสติกส์ “อย่าเข้าใกล้วัตถุทางทหารของกองทัพรัสเซีย” เซเลนสกีระบุก่อนเกิดเหตุยิงถล่มพื้นที่ภายใต้การครอบครองของรัสเซียได้เพียงแค่ข้ามวัน
แหลมไครเมียเป็นศูนย์กลางสำคัญสำหรับการรุกรานยูเครนของรัสเซีย และกระทรวงกลาโหมของสหราชอาณาจักรกล่าวว่า ผู้นำทางทหารของรัสเซียมีแนวโน้มที่จะรู้สึก “กังวลมากขึ้น” เกี่ยวกับโอกาสของความพ่ายแพ้ที่เพิ่มสูงขึ้น แม้ว่ารัสเซียจะออกมากล่าวว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเป็นเพียงแต่ “การก่อวินาศกรรม” ในพื้นที่ท้องถิ่นเท่านั้น
มีผู้ถูกกล่าวหาว่าเป็นกลุ่มมุสลิมหัวรุนแรงจำนวน 6 ราย ถูกควบคุมตัวเมื่อวันพุธที่ผ่านมา ทั้งนี้ เซอร์เก อักซโยนอฟ ผู้บัญชาการในไครเมียที่ได้รับการแต่งตั้งจากรัสเซียออกมาระบุว่า ไม่มีความเชื่อมโยงอย่างชัดเจนระหว่างผู้ทำการโจมตี กับเหตุการณ์โจมตีที่เกิดขึ้นในครั้งล่าสุดนี้
ที่มา: