ไม่พบผลการค้นหา
ประธาน กกต.ยืนยันไม่แก้ไขกฎหมาย ปิดทางพรรคเดียวเบอร์เดียว อ้างต้องใช้ช่วงเวลาที่เหลืออยู่จัดการเลือกตั้งให้สำเร็จ

นายอิทธิพร บุญประคอง ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. แถลงผลการหารือร่วมกับพรรคการเมือง เกี่ยวกับการกำหนดค่าใช้จ่ายของผู้สมัครรับ ส.ส.แบบแบ่งเขต ตามมาตรา 62 พ.ร.บ.ประกอบการเลือกตั้ง ส.ส. ซึ่งที่ประชุมมีการเสนอวงเงินตั้งแต่ 2 แสนบาท จนถึง 2 ล้านบาท 

ขณะเดียวกันมีการหารือเกี่ยวกับขนาด จำนวนป้ายหาเสียง และสถานที่ติดป้าย ซึ่ง กกต.จะต้องเร่งพิจารณาหลักเกณฑ์เกี่ยวกับสถานที่ปิดป้ายหาเสียงให้เกิดความชัดเจนโดยเร็วที่สุด ส่วนเรื่องของจำนวนป้ายมีบางส่วนตั้งข้อสังเกตว่าเมื่อจำนวนเขตเลือกตั้งลดลง ทำให้เขตเลือกตั้งใหญ่ขึ้น เหตุใดจำนวนป้ายหาเสียงจึงลดลงกว่าการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา ทั้งนี้ กกต.ได้ยืนยันว่าการกำหนดแผ่นป้ายหาเสียงขนาดเอ3 เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด

โดยในที่ประชุมวันนี้ กกต.ยังกำหนดให้การใช้หุ่นยนต์หาเสียงเข้าข่ายการหาเสียงทางอิเล็กทรอนิกส์ ส่วนการตรวจสอบการใช้แอคเคาท์ปลอมที่อาจใช้ใส่ร้ายคู่แข่งขันนั้น มีการเสนอให้ กกต.ตั้งคณะทำงาน หรือวอร์รูม เพื่อทำหน้าที่รับเรื่องและตรวจสอบในเรื่องนี้ ซึ่งข้อเสนอทั้งหมดจะนำเข้าสู่ที่ประชุมใหญ่ของ กกต.อีกครั้ง ก่อนออกระเบียบที่เกี่ยวข้องอย่างเป็นทางการ ซึ่งคาดว่าจะดำเนินการให้แล้วเสร็จก่อนปีใหม่ อย่างไรก็ตามมีระเบียบที่ กกต.จะต้องเร่งดำเนินการให้แล้วเสร็จจำนวน 8 ฉบับ

ประธาน กกต. กล่าวถึงการใช้สื่อหาเสียงในช่วงที่ยังไม่มีการปลดล็อกสื่อว่า หากพรรคการเมืองใดต้องการใช้สื่อเพื่อหาเสียงต้องแจ้งให้ กกต.ทราบว่าจะใช้อย่างไร ช่องทางไหน เมื่อไหร่ เพื่อให้ กกต.รับทราบในรายละเอียด นำไปสู่การป้องกันการใช้สื่อใส่ร้ายป้ายสีกัน

ส่วนกรณีข้อเสนอให้ กกต.ขอให้ คสช. ใช้มาตรา 44 เพื่อแก้ไขมาตรา 48 ในพ.ร.ป.เลือกตั้ง ส.ส. นั้น ยืนยันว่า ไม่ใช่หน้าที่ของ กกต.ที่จะขอใช้มาตรา 44 หรือจะแก้ไขกฎหมายในช่วงนี้ เพราะ กกต.ต้องทำตามกฎหมายที่กำหนดไว้ ที่ให้แต่ละเขตเลือกตั้งต้องออกแบบบัตรเลือกตั้งเป็นการเฉพาะ ขณะที่ กกต.เองต้องใช้เวลาที่เหลืออยู่เพื่อจัดการเลือกตั้งให้สำเร็จ ประเด็นอื่นหากไม่เกี่ยวข้อง กกต.จะไม่นำมาพิจารณา

ข่าวที่เกี่ยวข้อง: