สหประชาชาติเปิดเผยรายงานระบุว่า ปริมาณขยะอิเล็กทรอนิกส์ในเอเชียพุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา โดยฮ่องกงคือแหล่งผลิตขยะอิเล็กทรอนิกส์มากที่สุด ซึ่งประชากร 1 คนผลิตขยะอิเล็กทรอนิกส์มากถึง 21.7 กิโลกรัม
ผลการศึกษาจากสหประชาชาติ ที่มีการเก็บข้อมูลเกี่ยวกับปริมาณขยะอิเลกทรอนิกส์ในช่วงปี 2010 ถึง 2015 พบว่า ปริมาณขยะดังกล่าวเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งเป็นผลมาจากประชากรในเอเชียสามารถซื้อสมาร์ทโฟนและแกดเจ็ตได้ง่ายขึ้น และมีกำลังทรัพย์มากพอในการเปลี่ยนอุปกรณ์เหล่านี้ใหม่ หากของที่ใช้อยู่เดิมเริ่มตกรุ่น
สหประชาชาติเปิดเผยว่า ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ปริมาณขยะอิเล็กทรอนิกส์เพิ่มสูงขึ้นถึง 63 เปอร์เซนต์ ซึ่งสิ่งที่น่าเป็นกังวลหลังจากนี้ ก็คือการหาวิธีในการกำจัดขยะ รวมถึงการรีไซเคิลอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อไม่ให้เกิดสารเคมีตกค้าง ซึ่งอาจจะกระทบต่อสุขภาพมนุษย์และสิ่งแวดล้อมได้ โดยประเทศในเอเชียหลายประเทศ ยังไม่มีเทคโนโลยีหรือนวัตกรรมที่ดีพอในการจัดการกับปัญหาขยะอิเล็กทรอนิกส์ อีกทั้งกระบวนการผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์บางประเภท ก็ยังไม่มีความปลอดภัยและได้มาตรฐานโลกอีกด้วย
โดยปริมาณขยะอิเล็กทรอนิกส์ที่เกิดขึ้นในจีนนั้นเพิ่มมากขึ้นถึง 2 เท่าในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ซึ่งฮ่องกงขึ้นชื่อว่าเป็นแหล่งผลิตขยะอิเล็กทรอนิกส์มากที่สุดในเอเชียในปี 2015 โดยประชากร 1 คนจะก่อให้เกิดขยะอิเล็กทรอนิกส์เฉลี่ยมากถึง 21.7 กิโลกรัม ขณะที่สิงคโปร์และไต้หวัน ประชากร 1 คนก่อให้เกิดขยะอิเล็กทรอนิกส์เฉลี่ย 19 กิโลกรัม ด้านกัมพูชา เวียดนามและฟิลิปปินส์ มีอัตราการผลิตขยะอิเล็กทรอนิกส์ที่ต่ำมาก ประชากร 1 คนก่อให้เกิดขยะอิเล็กทรอกนิกส์เพียงแค่ 1 กิโลกรัมเท่านั้น