ไม่พบผลการค้นหา
กูเกิลเผยคนไทยเข้าโชว์รูมรถน้อยลง
วีอาร์จะเปลี่ยนการทำธุรกิจยุคใหม่
Biz Feed - โฆษณาเหยียดผิวสะท้อน H&M ปรับตัวเข้ายุคดิจิทัลไม่ได้ - Short Clip
Biz Feed - Biz Insight:เครื่องสำอางเกาหลีมุ่งตีตลาดมุสลิมในอาเซียน- Short Clip
CLIP Biz Feed : เศรษฐกิจโลกมีชัยในศึกเลือกตั้งฝรั่งเศส
Biz Feed - ซัมซุงเสียส่วนแบ่งเพิ่มให้สมาร์ทโฟนจีนปีหน้า - Short Clip
CLIP Biz Feed : H&M เปิดแบรนด์ใหม่ หลังถูกร้านออนไลน์ตีตลาด
Biz Feed - บิทคอยน์ร่วงเพราะรัฐบาลในเอเชีย? - Short Clip
CLIP Biz Feed : 'HijUp' เปิดโลกแฟชั่นหญิงมุสลิม
Biz Feed - ทำไมมีร้านอาหารไทยในสหรัฐฯ เยอะมาก - Short Clip
Biz Feed - กระทรวงการคลังเร่งแก้เงินบาทแข็งค่า - Short Clip
CLIP BIZ FEED : สตาร์บัคส์กับภารกิจพิชิตใจชาวอิตาเลียน
CLIP Biz Feed : 5 ธุรกิจสำหรับนักลงทุนยุคมิลเลนเนียล
CLIP Biz Feed : 'เฟอร์รารี'มุ่งรักษาจุดยืนซูเปอร์คาร์สุดหรู
Biz Feed - Biz Insight: ปัญญาประดิษฐ์ปฏิวัติการช็อปวันแบล็กฟรายเดย์ - Short Clip
Biz Feed - เกิดอะไรขึ้นบ้างเมื่อสหรัฐฯ ชัตดาวน์? - Short Clip
Biz Feed - บินไทย-แอร์เอเชีย แจ้งยกเลิกเที่ยวบิน เกาะบาหลี - Short Clip
Biz Feed - mai FORUM 2018 : มหกรรมรวมพลังคน mai ครั้งที่ 5​ - Short Clip
CLIP BizFeed : จ้างงานผู้สูงอายุ รับสังคมสูงวัยอย่างยั่งยืน
CLIP Biz Feed : ห้างใกล้ตาย แต่อี-คอมเมิร์ซเปิดร้านขายปลีก
May 1, 2017 03:10

ในยุคดิจิทัลที่การซื้อขายสินค้าออนไลน์เป็นเรื่องสะดวกสบาย ห้างสรรพสินค้าและร้านค้าปลีกทยอยปิดตัวกันไป แต่ธุรกิจอี-คอมเมิร์ซกลับหันมาเปิดร้ายค้าปลีกเสียเอง เพื่อเสริมประสบการณ์เดินชอปปิ้งซื้อของ

บทวิเคราะห์ของ S&P Global Market Intelligenceระบุว่า นับตั้งแต่เริ่มต้นปี 2017 มีถึง 14 เครือห้างสรรพสินค้าและร้านค้าปลีกในสหรัฐฯ ได้ยื่นเอกสารล้มละลายและขอให้ศาลคุ้มครอง ซึ่งจะทำให้มีการปิดร้านค้าปลีกมากกว่า 400 ร้าน ถือว่าเป็นอัตราการปิดตัวที่สูงมากเป็นประวัติการณ์ สวนทางกับการเกิดใหม่ของร้านขายของออนไลน์ โดยเอส แอนด์ พีวิเคราะห์ว่า ร้านค้าปลีกหลายเจ้าไม่สามารถปรับตัวให้เข้ากับเทรนด์อี-คอมเมิร์ซที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆได้

ด้านผู้บริหาร Urban Outfitter บริษัทผลิตเสื้อผ้าของสหรัฐฯ มองว่า ปัจจุบัน มีร้านค้าปลีกมากเกินไป โดยเฉพาะร้านขายเสื้อผ้า จึงเกิดฟองสบู่ คล้ายกับฟองสบู่อสังหาริมทรัพย์ และเขาเชื่อว่า ฟองสบู่ร้านค้าปลีกกำลังจะแตกแล้ว และจะได้เห็นร้านค้าปลีกปิดตัวลงมากว่านี้

S&P Global Market Intelligence และ Credits Analytics ได้ประเมินความเสี่ยงว่าร้านค้าปลีกแต่ละประเภทจะต้องปิดตัวลงมากน้อยแค่ไหน โดยระบุว่า ห้างสรรพสินค้า ร้านขายอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ และร้านเสื้อผ้าเสี่ยงจะปิดตัวมากที่สุด คิดเป็นร้อยละ 1.5 ขณะที่ร้านอาหารและอุปกรณ์สำหรับพื้นที่ใช้สอยภายในบ้านมีความเสี่ยงน้อยที่สุด 

ในทางกลับกัน ยักษ์ใหญ่แห่งอีคอมเมิร์ซอย่างแอมะซอนและอาลีบาบากลับทดลองเปิดร้านค้าปลีก เช่น ร้านหนังสือ หรือร้านอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เพราะ eMarketer ได้สำรวจมาว่า แม้การซื้อขายออนไลน์จะได้รับความนิยมมากขึ้น จนมีการคาดการณ์ว่าแอมะซอนจะทำรายได้ถึง 2.5 ล้านล้านดอลลาร์ในปี 2018 แต่การใช้จ่ายทั่วโลกกว่าร้อยละ 90 ก็ยังเป็นการซื้อขายในร้านค้าปลีกอยู่ดี

อย่างไรก็ตาม นิตยสาร Forbes และ Inc.com วิเคราะห์เหตุผลที่แอมะซอนเปิดร้านค้าปลีกว่าเป็นไปเพื่อตอกย้ำแบรนด์การขายสินค้าออนไลน์ของตนเอง โดยแอมะซอนพยายามจะให้การซื้อขายของในร้านค้าปลีกของตัวเองตอบโจทย์คนรุ่นใหม่มากขึ้นด้วยการผสมผสานระหว่างร้านค้าปลีกดั้งเดิมกับเทคโนโลยีอีคอมเมิร์ซ เช่นระบบออโตเมติกและเทคโนโลยีค้นหาจากฐานข้อมูล โดยผู้ซื้อสามารถเลือกซื้อสินค้าจากสมาร์ทโฟนของตัวเอง แล้วไปรับของที่ร้านได้เลย โดยไม่ต้องไปเดินหาสินค้าตามชั้นวางสินค้าเองให้เสียเวลา

สำหรับบางคนที่ยังต้องการจับต้องสินค้าหรือทดลองใช้ก่อนจึงจะมั่นใจ ร้านค้าปลีกนี้ก็จะทำให้ผู้ซื้อมั่นใจขึ้น เช่น สินค้าประเภทหนังสือหรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ นอกจากนี้ ร้านค้าปลีกยังช่วยลดค่าจัดส่งสินค้าของแอมะซอนไปได้มาก และลูกค้าบางส่วนก็ไม่ต้องการรอสินค้า หรือเกรงว่าสินค้าจะเสียหายระหว่างการจัดส่ง จึงต้องการสั่งของแล้วไปรับด้วยตัวเองที่ร้านของแอมะซอนเอง

นอกจากนี้ การมีร้านค้าปลีกยังจะทำให้คนที่ไม่เคยใช้อีคอมเมิร์ซ มีโอกาสเข้าไปเลือกซื้อของในร้านได้ ซึ่งอาจเป็นอีกหนึ่งทางในการเชิญชวนให้คนกลุ่มนี้มั่นใจในแบรนด์แอมะซอนหรืออาลีบาบามากขึ้น จนนำไปสู่การสั่งสินค้าออนไลน์ด้วย

 

Voice TV
กองบรรณาธิการ วอยซ์ทีวี
185Article
76559Video
0Blog