กรมการท่องเที่ยว พร้อมยกระดับอาหารริมทาง หรือ สตรีทฟู้ด ผ่านการจัดอบรมทั่ว 4 ภาค เพื่อสร้างคุณภาพและมาตรฐานให้กับเมนูอาหารและผู้ประกอบการ หวังดึงดูดนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติให้เดินทางมาลิ้มรสอาหารไทย
อธิบดีกรมการท่องเที่ยวโชว์ลีลาปรุงเมนูสตรีทฟู้ดขึ้นชื่ออย่าง "ผัดหมี่โคราช" แจกจ่ายให้ผู้เข้าร่วม "โครงการพัฒนาอาหารริมทางในประเทศไทยในพื้นที่เขตพัฒนาการท่องเที่ยว " ครั้งที่ 1 ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ซึ่งอธิบดีฯ ก็ไม่ลืมที่จะสวมหมวก ผ้ากันเปื้อน ล้างมือก่อนการปรุงอาหาร และใช้ภาชนะเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งนี่คือหนึ่งในกฎเกณฑ์พื้นฐานที่จะนำมายกระดับอาหารริมทางเพื่อการท่องเที่ยว หรือ สตรีทฟู้ด ให้มีคุณภาพและมาตรฐานที่ดีขึ้น
โดยปัจจุบัน กระแสการท่องเที่ยวผ่านอาหาร หรือ Food Tourism ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวนานาประเทศ จนประเทศไทยได้รับการโหวตให้เป็นสถานที่ที่นักท่องเที่ยวชื่นชอบและสนใจที่จะเดินทางมาเพื่อชิมอาหารและเครื่องดื่ม จนกลายเป็นส่วนสำคัญที่สร้างรายได้ให้กับประเทศมาอย่างต่อเนื่อง กรมการท่องเที่ยว จึงต้องการยกระดับมาตรฐานบริการอาหารริมทาง ให้สะอาดและปลอดภัย เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับนักท่องเที่ยว จึงได้จัดอบรมระยะสั้นในด้านต่าง ๆ ให้กับผู้ประกอบการร้านอาหารริมทาง โดยเน้นให้ความรู้ โดยเฉพาะการทำความเข้าใจที่ถูกต้องในการประกอบอาหารที่ถูกสุขลักษณะ นอกจากนั้น ยังมีการให้ความรู้ด้านการตลาด การพัฒนาบรรจุภัณฑ์ที่จะช่วยเพิ่มมูลค่าและรักษาสิ่งแวดล้อม รวมไปถึงการใช้ภาษาอังกฤษแบบง่าย ๆ เพื่อให้นักท่องเที่ยวเกิดความประทับใจ บอกต่อและกลับมาท่องเที่ยวซ้ำอีกเรื่อย ๆ
การท่องเที่ยวคาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมโครงการไม่ต่ำกว่า 800 คน โดยขณะนี้มีการหารือร่วมกันกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการออกเครื่องหมายสัญลักษณ์รับรองคุณภาพ เช่น การติดดาว การปักธง ผ่านทั้งการประกวด และการลงพื้นที่สำรวจมาตรฐาน เพื่อกระตุ้นผู้ประกอบการอาหารและสื่อสารกับนักท่องเที่ยว
สำหรับการจัดอบรมจะจัดขึ้นในทุกภาค สำหรับภาคใต้ จะจัดที่จังหวัดสงขลา ในวันจันทร์ที่ 27 สิงหาคมนี้ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่จังหวัดบุรีรัมย์ ในวันจันทร์ที่ 3 กันยายน และภาคเหนือที่เชียงใหม่ ในวันจันทร์ที่ 10 กันยายน โดยการท่องเที่ยวยังมีแผนจะขยายพื้นที่จัดอบรมเพิ่มเติม ผู้ประกอบการร้านอาหารริมทางและผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว รวมถึงประชาชนที่สนใจ สามารถสอบถามเพิ่มเติมและสำรองที่นั่งได้ ที่ 092-992-6564 และเว็บไซต์ www.Tourism.go.th