กูเกิลหนึ่งในบริษัทที่มีความเก่งและเชี่ยวชาญทางด้านการพัฒนาปัญญาประดิษฐ์มากที่สุด โดยล่าสุดกูเกิลพบว่าปัญญาประดิษฐ์ของตัวเองถูกนำไปใช้ในวัตถุประสงค์ทางการทหารแบบไม่รู้เนื้อรู้ตัว
เว็บไซต์กิซโมโดรายงานว่าพนักงานของกูเกิลต่างก็หัวร้อนไปตามๆ กัน หลังจากค้นพบว่าปัญญาประดิษฐ์ที่พวกเขาก้มหน้าก้มตาพัฒนากันมาอย่างหนักหน่วงนั้นถูกกระทรวงกลาโหมของสหรัฐฯ นำไปใช้ในการวิเคราะห์ภาพวิดีโอจำนวนมหาศาลที่ถูกบันทึกมาด้วยโดรนทหาร
เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ถูกหน่วยงานที่ดูแล "โปรเจ็กต์ มาเว่น (Maven)" โปรเจ็กต์ที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลซึ่งเริ่มต้นทำงานตั้งแต่เดือนเมษายนปีที่แล้ว นำไปใช้ในการระบุตัวตนของยานพาหนะหรือวัตถุต่างๆ ที่โดรนทหารเก็บบันทึกภาพมาได้ ซึ่งก่อนหน้านี้ภาพเหล่านี้จะต้องผ่านการวิเคราะห์โดยมนุษย์ แต่เวลาผ่านไป โดรนสามารถเก็บภาพได้มากขึ้นเรื่อยๆ รวมๆ กันเป็นหลายล้านชั่วโมง จนเกินกำลังที่เจ้าหน้าที่ทหารจะวิเคราะห์ได้ไหว จึงต้องนำเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์มาช่วย
กูเกิลเปิดกว้างเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ให้คนทั่วไปที่สนใจนำไปศึกษาต่อ ผ่านทางแพลตฟอร์มที่ชื่อว่า "เทนซอร์โฟลว์" ซึ่งน่าจะเป็นแพลตฟอร์มที่หน่วยงานทหารหยิบเทคโนโลยีนี้ไปใช้ แพลตฟอร์มนี้เริ่มเปิดให้สาธารณชนเข้าถึงได้ในปี 2015 และเป็นเทคโนโลยีเดียวกันกับที่เราเห็นใน Google Photos ซึ่งสามารถระบุได้ว่าภาพที่เราถ่ายมาเป็นภาพอะไร เพื่อให้ง่ายต่อการค้นหาในภายหลังนั่นเอง
แม้ว่ากูเกิลจะเปิดเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ให้ใครก็ตามเข้าถึงได้ แต่การที่หน่วยงานทหารหยิบไปใช้ก็ทำให้พนักงานของกูเกิลรู้สึกไม่สบายใจ เพราะไม่รู้ว่าสิ่งที่ตัวเองพัฒนาจะถูกนำไปใช้ในทางที่เป็นอันตรายต่อพลเรือนหรือเปล่า ซึ่งก็นับเป็นเรื่องที่เข้าใจได้ และในอนาคตน่าจะต้องมีกรณีของการหยิบ "เอไอ" ไปใช้ในทางที่กูเกิลไม่คาดคิดอีกมากมาย ดังนั้นทางกูเกิลเองก็น่าจะต้องหูตาไวในการที่จะคอยตรวจสอบและติดตามว่าเทคโนโลยีของตัวเองถูกนำไปใช้ในทางไหนบ้าง