สื่ออังกฤษรายงานว่าในปีที่แล้ว คนส่วนใหญ่เลือกซื้อรถยนต์สีดำมากเป็นอันดับ 1 โค่นแชมป์เก่าสียอดนิยมอย่างสีขาวลงได้ โดยผู้เชี่ยวชาญระบุว่า เป็นเพราะผู้ใช้รถไม่อยากล้างรถบ่อย
สำนักข่าว เดอะ เทเลกราฟ รายงานการเก็บข้อมูลการซื้อขายรถยนต์ในอังกฤษประจำปี 2017 พบว่า มีคนซื้อรถสีดำมากกว่าครึ่งล้านคัน จนกลายเป็นสีรถยอดนิยมใหม่ แทนที่สีขาว ซึ่งครองแชมป์ติดต่อกันมา 4 ปี โดยผู้เชี่ยวชาญจาก ซิเนอร์ กรุ๊ป รีเทลรถยนต์รายใหญ่ของยุโรป เปิดเผยว่า ความเร่งรีบในชีวิตประจำวันทำให้ผู้คนต้องการรถที่ไม่ต้องดูแลมาก และไม่ต้องล้างทำความสะอาดบ่อย ในขณะที่ สีขาวเป็นสีที่ผู้ใช้รถส่วนใหญ่มองว่าเลอะง่ายกว่าสีอื่น ๆ
นอกจากนี้ ความนิยมสีรถช่วงปีที่ผ่านมายังเน้นไปที่สีโมโนโครม เช่น ดำ เทา ขาว รวมมากกว่า 60 เปอร์เซ็นต์ ของรถยนต์ใหม่ 2.54 ล้านคัน ที่ขึ้นทะเบียนในปี 2017 ด้วย
ทั้งนี้ เมื่อพิจารณายอดขายรถยนต์ในไอร์แลนด์เหนือ สกอตแลนด์ และเวลส์ จะพบว่ารถสีขาวยังเป็นที่นิยมสูงสุด ขณะที่ เมื่อแบ่งเกาะอังกฤษออกเป็นส่วน ๆ จะพบว่า ทางตอนเหนือยังคงนิยมสีขาวอยู่ แต่ทางใต้ลงมา เช่น เวสต์ มิดแลนด์ และ อีสต์ มิดแลนด์ จะนิยมสีดำและสีเทาตามลำดับ
ด้านบรรณาธิการนิตยสารรถยนต์ วอต คาร์ (What Car?) นิตยสารรายเดือนที่ตีพิมพ์มาตั้งแต่ปี 1973 ให้ความเห็นว่า รถยนต์ที่มีสีเรียบและดูเซฟกว่า มักนำไปขายต่อได้ราคาสูงกว่า เพราะดึงดูดลูกค้าให้ซื้อได้ง่ายกว่า ทำให้สีอื่น ๆ ขึ้นมาทำอันดับแข่งได้ยาก