ไม่พบผลการค้นหา
'สุดารัตน์' ชวนสังคมหยุดระบบรัฐประหาร ลงชื่อหนุนร่าง รธน.ฉบับประชาชนที่เขียนโดยไทยสร้างไทย ระบุคนปฏิวัติต้องได้รับโทษสูงสุด-นิรโทษไม่ได้ เปรยไม่ปิดประตูนั่งแคนดิเดตนายกฯหากต้องทำตามกลไก หากถ้า 'ประยุทธ์' หลุดเก้าอี้ เปรยแต่ไม่ขอรับได้ ขอหลังเลือกตั้งดีกว่า

วันที่ 19 ก.ย. ที่ทำการพรรคไทยสร้างไทย คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย แถลงข่าวเสนอแนวทางออกการป้องกันการปฏิวัติในอนาคต ต่อประเด็น "16 ปีรัฐประหาร 19 กันยา ถึงเวลา ปลดล็อกวงจรอุบาทว์"

คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่า วันนี้ครบรอบรัฐประหารปี 49 มา 16 ปี ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นการเสื่อมถอยของประเทศในทุกด้าน และสร้างความขัดแย้งมาอย่างยาวนาน จนเกิดผลกระทบความสูญเสียต่อร่างกาย ทรัพย์สิน ชีวิตประชาชน รวมไปถึงด้านเศรษฐกิจ 

ขณะที่ผลกระทบจากการรัฐประหารต่อประเทศ คือเราเห็นจุดเริ่มต้นของการใช้อำนาจทางนิติรัฐนิติธรรมอย่างไม่เที่ยงตรง เกิดการลิดรอนสิทธิเสรีภาพประชาชน มีการบริหารจัดการประเทศแบบอำนาจนิยมเป็นใหญ่ ซึ่งผลที่เกิดขึ้นวันนี้คือ เกิดความขัดแย้งแตกแยกมาตลอด 16 ปี จนทำให้ประเทศเสื่อมทุกด้าน ยังคงเกิดการแบ่งฝักแบ่งฝ่าย 2 ขั้ว คือ ฝั่งที่ประชาชนเลือกมาและฝั่งที่ใช้ปืนทำรัฐประหารเข้ามา

ทั้งนี้ การที่ทหารอ้างว่านักการเมืองเลวและต้องมาปราบโกง แต่ทุกครั้งที่เกิดการรัฐประหารการโกงกลับเพิ่มขึ้นตลอด เพราะไม่มีการตรวจสอบจนและทำให้ประเทศไทยติดอันดับคอรัปชั่นสูง และที่อ้างว่ารัฐธรรมนูญปี 65 เป็นรัฐธรรมนูญฉบับปราบโกง ซึ่งเป็นข้ออ้างทั้งสิ้น ฉะนั้นถ้าเป็นอย่างนี้ประเทศจะเดินยังไง คนรุ่นใหม่ก็มองไม่เห็นอนาคต และประเทศไทยจะเจ๊งมากขึ้น 

คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่า พรรคไทยสร้างไทยจึงขอประกาศว่า 16 ปีที่ผ่านมามากเกินพอแล้ว ถึงเวลาที่ต้องหยุดอำนาจเผด็จการ หยุดการรัฐประหาร เราต้องสร้างความปรองดอง โดยทางออกคือคืนอำนาจให้ประชาชนในการร่างรัฐธรรมนูญฉบับประชาชนให้เกิดขึ้น ซึ่งขณะนี้ทางพรรคฯได้ร่างไว้เรียบร้อยแล้วโดย โภคิน พลกุล ประธานยุทธศาสตร์ขับเคลื่อนประเทศ พรรคไทยสร้างไทย ซึ่งจะไม่แก้หมวด 1 หมวด 2 แต่จะแก้หมวดที่เกี่ยวข้องกับสิทธิประชาชน และที่สำคัญมีบทบัญญัติไปว่า คนที่ทำรัฐประหารล้มล้างการปกครองต้องถือว่าเป็นกบฏและต้องได้รับโทษสูงสุด ไม่สามารถนิรโทษกรรมได้ โดยคาดว่าจะมีการนำเสนอในสัปดาห์ต่อไป และหลังจากนั้นจะขอเชิญชวนให้ประชาชนร่วมกันลงชื่อ เพื่อคืนอำนาจให้ประชาชนเพื่อเสนอต่อสภา และหวังว่าอายุสภาที่เหลือจะทำหน้าที่สนับสนุนในวาระสุดท้ายนี้ ไม่ว่าจะอยู่พรรคไหน ควรเอาประโยชน์ประชาชนเป็นที่ตั้ง ซึ่ง รธน.ฉบับประชาชนนี้ จะเครื่องนี้ปลดล็อกแรกออกจากเผด็จการ ปลดล็อกความขัดแย้งประเทศ ฉะนั้นขอให้จบแค่ 16 ปีนี้

"ให้มันจบที่ 16 ปีนี้ ฉะนั้นไทยสร้างไทย จึงขอเสนอร่างกฏหมายในการแก้รัฐธรรมนูญ เพื่อคืนอำนาจให้ประชาชนเลือกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (สสร.) และทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ซึ่งจะเป็นประตูทางออกของความขัดแย้งเดินหน้าประเทศไทย และเป็นการปิดล็อกอำนาจนินมจากเผด็จการ จากรถถัง จากปืนได้"

ในช่วงท้าย คุณหญิงสุดารัตน์ ให้สัมภาษณ์ถึงความพร้อมเป็นใช้แคนดิเดตนายกฯ ในนามพรรคเพื่อไทย หรือไม่หาก 30 ก.ย.นี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไม่ได้ไปต่อ ว่า ตนมองว่าขนาดนี้เป็นเกมแย่งอำนาจกัน จนตนต้องเร่งเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพราะไม่คิดว่าจะมีการถ่ายโอนอำนาจให้กับประชาชนอย่างแท้จริงสุดท้ายก็จะมีวิธีการที่ผู้มีอำนาจขนาดนี้จะสืบทอดอำนาจต่อไป ตนเองแม้เป็นแคนดิเดตอยู่และได้ออกมาสักพักแล้ว ซึ่งเป็นภารกิจสุดท้ายในชีวิตทางการเมืองที่อยากจะสร้างพรรคการเมืองให้กับประชาชน พร้อมย้ำว่าภารกิจสุดท้ายจะนำประสบการณ์ 30 ปีทางการเมืองไม่มาเสียเปล่าเพื่อเป็นเสาเข็มเชื่อมโยงคนเก่งๆ ดังนั้นวันนี้ความมุ่งมั่นตั้งใจเป็นแบบนี้ 

แต่ถ้ามีการเสนอชื่อโดยหน้าที่ถอนไม่ได้ ก็ต้องยืนหยัดยืนยันที่จะเดินหน้าต่อไป แต่จะมีการเสนอชื่อหรือไม่เสนอชื่อไม่สำคัญ แต่ถ้าการเสนอชื่อในกฎหมายถอนไม่ได้ก็ต้องเดินหน้า แต่วันนี้ตนมองข้ามช็อตไปแล้วซึ่งกำลังมองไปถึงว่าจะสร้างการเมืองใหม่อย่างไรที่ปลดล็อกความขัดแย้งและปัญหาทุกเรื่อง ซึ่งตรงนี้เป็นระบบก็ว่าไป แต่ตนเองมองข้ามช็อตไปแล้ว พร้อมย้ำว่าเราถอนตัวเองออกจากแคนดิเดตไม่ได้ตามกฎหมาย แต่เราสามารถที่จะไม่รับได้ พร้อมยืนยันว่าขอให้เป็นหลังเลือกตั้งดีกว่า

เมื่อถามว่า หากอ่านใจผู้มีอำนาจจะมองการวางตัวนายกฯ ต่อจาก พล.อ.ประยุทธ์ อย่างไรนั้น คุณหญิงสุดารัตน์ ระบุว่า คุณไม่แน่ใจแต่ก็คิดว่าเขาคงมีการวางตัว และวันนี้ก็มี พล.อ.ประวิตร พล.อ.ประยุทธ์ แล้วก็อาจมีพลเอกอื่นๆมาอีกทีหลังก็ไม่ทราบ 

ขณะที่ นาวาอากาศตรี ศิธา ทิวารี เลขาธิการพรรคฯ กล่าวเสริมว่า อันดับแรกก็ต้องมองเป็น ป.ตัวเองก่อน อันดับสองถ้าเป็น ป.ตัวเองไม่ได้ ก็ต้องเป็น ป.ข้างข้าง แต่ท้ายที่สุด ผู้มีอำนาจก็อยู่กันแค่ 2 ป. ส่วนพรรคอื่นจะเป็นอย่างไรก็ว่ากันอีกที

ขณะที่การเสนอแคนดิเดตนายกฯ ของพรรคเพื่อไทย ที่มี 3 คน คือ คุณหญิงสุดารัตน์ ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ชัยเกษม นิติสิริ นั้น ทั้งนี้ตนเชื่อว่า ถ้ามีเสนอชื่อก็ต้องมาคุยกันว่าจากเดินหน้าในเรื่องอุดมการณ์ได้หรือเปล่า ซึ่งทำแบบนี้ตนเชื่อว่าคุณหญิงสุดารัตน์จะตอบรับ แต่ถ้าเสนอชื่อมาแล้วบอกให้ทำนู่นทำนี่ก็คงจะปฏิเสธ