ไม่พบผลการค้นหา
'เสรีพิศุทธ์' วอนชาวราชบุรีเลือกผู้สมัคร ส.ส.ฝ่ายประชาธิปไตย ไปช่วยโหวตคว่ำ 'พล.อ.ประยุทธ์' ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจช่วงเปิดสภา เชื่อ 'พล.อ.ประยุทธ์' ไปต่อลำบาก เพราะแม้แต่ฝ่ายเดียวกันยังคิดหานายกฯสำรองมาแทนแล้ว

เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย พร้อมด้วยนางณัฐทนันต์ นิธิภณยางสง่า ผู้สมัคร ส.ส.เบอร์ 1 พรรคเสรีรวมไทย ลงพื้นที่หาเสียงที่ตลาดสดจอมบึง อ.จอมบึง จ.ราชบุรี โดยมีชาวบ้านและพ่อค้าแม่ค้ามาทักทายและให้กำลังใจผู้สมัครของพรรคอย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งสะท้อนปัญหาในการประกอบอาชีพ การทำมาค้าขายที่ยากลำบากมากขึ้น เนื่องจากสินค้าเกือบทุกชนิดทยอยปรับขึ้นราคาจากการขึ้นค่าไฟ ค่าแก๊สและค่าน้ำมันดีเซล

พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ได้พูดคุยและให้กำลังใจชาวบ้านที่มาทักทาย โดยขอให้ช่วยกันอดทนในภาวะยากลำบากข้าวของแพงเช่นนี้ เพราะเรามีรัฐบาลที่ไร้ความสามารถ คิดแต่เรื่องของตัวเองและพวกพ้อง แต่กับปัญหาของชาวบ้านกลับละเลย ทำไม่เต็มที่ อย่างการขึ้นราคาน้ำมันดีเซลก็ไม่ฟังเสียงผู้ประกอบการรถ 10 ล้อที่ขอให้ใช้วิธีการลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันแทน ไม่ใช่มาโยนภาระให้ประชาชนเช่นนี้ แต่รัฐบาลก็ไม่ทำ เพราะกลัวจะต้องเสียงบประมาณเข้ารัฐมาก ความซวยจึงมาตกอยู่กับประชาชนที่ต้องซื้อของกินของใช้แพงขึ้นเกือบทุกอย่าง ในขณะที่รายได้ยังเท่าเดิมหรือบางคนตกงานไม่มีรายได้เลยด้วยซ้ำ

“ตอนนี้แม้แต่ในฝ่ายรัฐบาลด้วยกันก็ยังไม่ยอมรับในตัว พล.อ.ประยุทธ์เลย โดยจะเห็นได้จากการเคลื่อนไหวของ ส.ส.ในฝั่งรัฐบาลในการผลักดัน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ขึ้นมาเป็นนายกฯสำรองหรือนายกฯขัดตาทัพแทน หาก พล.อ.ประยุทธ์ไปต่อไม่ไหวแล้ว จึงอยากให้พี่น้องชาวราชบุรีใช้การเลือกตั้งแสดงออกในเชิงสัญลักษณ์ถึงการไม่ยอมรับการบริหารงานที่ล้มเหลวผิดพลาดของรัฐบาลด้วยการเลือกผู้สมัครของพรรคเสรีรวมไทย ซึ่งมีจุดยืนอยู่ฝ่ายประชาธิปไตยอย่างชัดเจนไม่เคยเปลี่ยน”

713281.jpg

พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวต่อว่ารัฐบาลคงไม่กล้ายุบสภาในช่วงนี้ เพราะคะแนนนิยมตกต่ำอย่างหนักจากภาวะข้าวของแพงมหาศาล จนชาวบ้านจะอยู่กันไม่ได้อยู่แล้ว จึงพยายามจะยื้อออกไปให้นานที่สุดหวังว่าจะทำให้คะแนนนิยมดีขึ้น แต่คิดว่าถึงยื้ออยู่ต่อไปก็ไม่มีผลอะไรต่อความนิยมของประชาชนแล้วเพราะคนทั้งประเทศได้เห็นฝีมือมาตลอด 8 ปีที่ผ่านมาว่าเป็นอย่างไร จึงอยากให้ชาวราชบุรีให้โอกาสผู้สมัครจากพรรคเสรีรวมไทยเข้าไปเป็นปากเป็นเสียงแทนในสภา และเป็นอีกหนึ่งเสียงในการโหวตไม่ไว้วางใจ พล.อ.ประยุทธ์ ในการอภิปรายที่จะมีขึ้นหลังการเปิดประชุมสภาปลายเดือนนี้