ไม่พบผลการค้นหา
นายกฯ- สรุปผลประชุม ครม.นัดส่งท้ายก่อนบินสหรัฐฯ สั่งชดเชยแรงงานไทยกลับจากอิสราเอลเร่งด่วน พร้อมตั้ง ‘พัชรวาท’ รองนายกฯ-รมว.ทรัพยากรฯ เป็นประธานแก้ปัญหา PM 2.5 ก่อนเตรียมยกระดับอาหารฮาลาล เร่งชง พ.ร.บ.สมรสเท่าเทียมเข้า ครม.สัปดาห์หน้า

วันที่ 7 พ.ย. ที่ทำเนียบรัฐบาล ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยถึงการชดเชยเยียวยาแรงงานไทยที่กลับจากรัฐอิสราเอล หลังจากมีเสียงบ่นจากแรงงานว่า ให้ค่าชดเชยค่าเครื่องบินล่าช้า ทั้งนี้ จึงได้สั่งการให้ พิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานดูแลให้ดี ไม่อยากให้ไปพูดกันที่รัฐอิสราเอลว่า “กลับมาแล้วไม่ได้เงิน จึงไม่ยอมกลับไทย” 

ส่วนเรื่องกฎหมายสมรสเท่าเทียมได้เร่งรัดให้เสนอเข้าที่ประชุม ครม. ภายในสัปดาห์หน้า พร้อมให้ตั้งคณะกรรมการดูแล PM 2.5 โดยให้ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเป็นประธาน

รวมถึงแต่งตั้งคณะกรรมการย่อยดูแลปัญหาในพื้นที่โครงการเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) โดยมีสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธาน และเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน หรือ BOU เป็นเลขาฯ ทั้งยังสั่งการเกี่ยวกับเหมืองโพแทช ซึ่งถือเป็นสารตั้งต้นในการทำปุ๋ยเคมี 

ทั้งนี้ประเทศไทยมีแร่โพแทช เป็นอันดับ 2 รองจากแคนาดา เมื่อขุดเจาะมาแล้วสามารถขายได้ดีในต่างประเทศ เพราะมีราคาสูง ปัจจุบันมีผู้รับสัมปทานแล้ว 3 รายแต่ยังไม่ได้ดำเนินงาน จึงเร่งรัดให้มีการดำเนินงาน หากไม่สามารถทำได้ก็ให้หาผู้ประมูลมาทำงานใหม่ นอกจากนี้ ยังรวมถึงการยกระดับหน่วยงานที่ดูแลอาหารฮาลาลของชาวมุสลิมซึ่งมีหน่วยงานในกรมของกระทรวงอุตสาหกรรมดูแลอยู่ ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ถือว่ามีขนาดเล็ก 

โดยรัฐบาลนี้ตระหนักดีถึงความสำคัญของอาหารฮาลาลว่าจะเป็นอาหารทางเศรษฐกิจที่สามารถส่งออกได้ ในพื้นที่ที่มีชาวมุสลิมจำนวนมาก ทั้งตะวันออกกลาง หรือแอฟริกา จึงอยากยกระดับหน่วยงานขึ้นมาให้เป็นกรม โดยได้มีการสั่งการไปและพูดคุยกับ กพ.ให้ดูเรื่องการยกระดับหน่วยงานนี้ จะได้ให้ความสำคัญและพัฒนาต่อไปได้