ในการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนระหว่างจอห์นสันกับ แมกดาลีนา แอนเดอร์สสัน นายกรัฐมนตรีสวีเดน นายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักรระบุว่า ชาติของตนพร้อมจะให้การสนับสนุนตามการร้องขอของสวีเดน โดยการลงนามในสนธิสัญญาดังกล่าวระหว่างสหราชอาณาจักรกับสวีเดนนั้น มีเนื้อหาเทียบเคียงกันไปกับสนธิสัญญาระหว่างสหราอาณาจักรกับฟินแลนด์ที่จอห์นสันลงนามกับ ซาวลี นีย์นิสโต ประธานาธิบดีฟินแลนด์อีกด้วย
จากสนธิสัญญาร่วมดังกล่าวมีเนื้อหาระบุถึงพันธะร่วมกันว่า หากประเทศใดประเทศหนึ่งถูกโจมตี หรือพบกับภัยพิบัติต่างๆ พวกตนจะ “ปฏิบัติตามคำขอจากประเทศที่ได้รับผลกระทบ ช่วยเหลือซึ่งกันและกันในหลากหลายวิธี ซึ่งอาจรวมถึงวิธีการทางทหาร”
จากการแถลงในทำเนียบประธานาธิบดีฟินแลนด์ ณ กรุงเฮลซิงกิ จอห์นสันให้การยืนยันว่า สหราชอาณาจักรจะเข้ามามีส่วนร่วมในการส่งกองทัพเข้ามายังสวีเดนและฟินแลนด์อย่างแน่นอน หากทั้งสองชาติถูกรุกรานโดยศัตรู “ใช่ เราจะเข้ามาให้การช่วยเหลือกันและกัน รวมถึงทางการทหารด้วย” จอห์นสันกล่าว
การเคลื่อนไหวล่าสุดระหว่างสวีเดนและฟินแลนด์ต่อสหราชอาณาจักร เป็นปฏิกิริยาตอบสนองต่อเหตุการณ์สงครามยูเครนที่ถูกกระทำโดยรัสเซีย ทั้งนี้ สวีเดนและฟินแลนด์มีพรมแดนใกล้และติดกันกับรัสเซีย ส่งผลให้ทั้งสองชาติเกรงภัยคุกคามจากรัสเซียที่อาจเกิดขึ้น ซึ่งอาจส่งผลให้ตนมีชะตากรรมไม่ต่างอะไรไปจากยูเครน
สวีเดนและฟินแลนด์อยู่ในขั้นตอนของการสมัครเข้าร่วมเป็นสมาชิกองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ ซึ่งมีกฎบัตรข้อห้าระบุว่า ทุกชาติสมาชิกจะเข้าช่วยเหลือชาติสมาชิกที่ถูกรุกราน อย่างไรก็ดี ผู้สื่อข่าวสอบถามนีย์นิสโตว่า ฟินแลนด์เกรงว่าการเข้าร่วมองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือของตนจะทำให้รัสเซียรู้สึกถึงความเป็นศัตรูหรือไม่ ประธานาธิบดีฟินแลนด์ตอบกลับว่า “หากเป็นกรณีนี้ คำตอบของผมก็คือ คุณเป็นต้นเหตุในเรื่องนี้ ส่องกระจกเอาสิ”
ในอีกด้านหนึ่ง จอห์นสันที่ขึ้นแถลงข่าวพร้อมกับแอนเดอร์สสันในสวีเดนกล่าวว่า “สงครามนี้ในยูเครนบังคับให้พวกเราต้องทำการตัดสินใจในเรื่องที่ยากยิ่ง แต่ชาติอธิปไตยจะต้องเป็นอิสระจากการตัดสินใจในเรื่องเหล่านั้น โดยปราศจากจากความกลัว หรือการถูกครอบงำ หรือภัยคุกคามของการโต้กลับ”
ผู้สื่อข่าวสอบถามจอห์นสันว่า ข้อตกลงระหว่างสวีเดนกับสหราชอาณาจักรจะมีผลอย่างไรในทางปฏิบัติ จอห์นสันยังคงสงวนท่าทีที่จะตอบคำถามดังกล่าว แต่เมื่อถูกถามว่าสหราชอาณาจักรจะส่งอาวุธนิวเคลียร์ช่วยเหลือสวีเดนหรือไม่ จอห์นสันได้ตอบกลับมายังสื่อมวลชนว่า “นี่เป็นการตัดสินใจร่วมกันของเรา เพื่อแสดงให้เห็นว่าเราจะสนับสนุนและปกป้องซึ่งกันและกัน” นายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักรกล่าว “เมื่อพูดถึงการใช้นิวเคลียร์ป้องปรามของเรา นั่นเป็นสิ่งที่เราไม่ได้แสดงความคิดเห็นโดยทั่วไป แต่สิ่งที่ผมได้แสดงเอาไว้อย่างชัดเจนคือการยื่นคำร้องขึ้นอยู่กับฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง และเราจริงจังกับมันมาก”
ที่มา: