คดีดังการฆ่าหั่นศพคาช็อกกีอย่างโหดร้ายจะได้รับการโอนสำนวนไปยังซาอุดีอาระเบีย ท่ามกลางความกังวลของกลุ่มนักสิทธิมนุษยชนว่าการตายของคาช็อกกีจะไม่ได้รับความเป็นธรรม จากกระบวนการยุติธรรมของซาอุดีอาระเบียภายใต้อำนาจการปกครองของเจ้าชายโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน มกุฎราชกุมารแห่งซาอุดีอาระเบีย ผู้ถูกคาช็อกกีวิจารณ์ตั้งแต่ครั้งที่เขายังมีชีวิตอยู่

การวิพากษ์วิจารณ์ของคาช็อกกีต่อเจ้าชายโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน ส่งผลให้ในวันที่ 2 ต.ค. 2561 คาช็อกกีที่เดินทางไปยังสถานกงสุลของซาอุดีอาระเบียประจำกรุงอิสตันบูลของตุรกี เพื่อเข้าไปรับเอกสารในการแต่งงานกับคู่หมั้นชาวตุรกีของตนอย่าง ฮาติซ เซนกิซ อย่างไรก็ดี ไม่มีใครพบเห็นคาช็อกกีเดินทางออกมาจากสถานกงสุลอีกเลย

เจ้าหน้าที่ตำรวจของตุรกีชี้ว่า คาช็อกกีถูกสังหารก่อนจะถูกแยกชิ้นส่วนอวัยวะภายในสถานกุงสุล โดยมีทีมสังหาร 26 คนถูกส่งมาจากประเทศซาอุดีอาระเบียมายังอิสตันบูลโดยตรง ทีมดังกล่าวประกอบไปด้วยหน่วยข่าวกรองและหน่วยรักษาความปลอดภัย และบุคคลที่ทำงานให้กับสำนักงานของมกุฎราชกุมารซาอุดีอาระเบีย ปัจจุบันนี้ ยังไม่มีใครพบศพของคาช็อกกีเลย

การระงับพิจารณาคดีโดยศาลตุรกีในครั้งนี้ ได้รับความกังวลจากกลุ่มนักสิทธิมนุษยชนว่าการโอนสำนวนคดีดังกล่าวไปยังซาอุดีอาระเบีย จะส่งผลให้คดีการสังหารคาช็อกกีถูกปิดเงียบ ท่ามกลางข้อสงสัยว่าเจ้าชายโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน อาจมีส่วนร่วมในการสั่งฆ่าคาช็อกกี 

การถ่ายโอนคดีในครั้งนี้จากตุรกีไปยังซาอุดีอาระเบีย เกิดขึ้นหลังจากที่ตุรกีกำลังเผชิญหน้ากับวิกฤตเศรษฐกิจตกต่ำ สอดคล้องกันกับความพยายามของรัฐบาลตุรกีในการรื้อฟื้นความสัมพันธ์กับทางราชวงศ์ซาอุดีอาระเบีย โดยรายงานข่าวบางสำนักระบุว่า เงื่อนไขที่ทางซาอุดีอาระเบียยื่นให้แก่ตุรกีในการรื้อฟื้นความสัมพันธ์ของทั้งสองชาติ เกี่ยวข้องกับการยุติการดำเนินคดีต่อจำเลยชาวซาอุดีอาระเบีย

ความสัมพันธ์ของทั้งสองชาติตกต่ำลงตั้งแต่ราวปี 2554 ในช่วงการปฏิวัติอาหรับโค่นล้มอำนาจเผด็จการในภูมิภาคตะวันออกกลาง โดยตุรกีให้การสนับสนุนกลุ่มภราดรภาพมุสลิม ซึ่งมีการเคลื่อนไหวขบวนการในการประท้วงและปฏิวัติแบบมุสลิมในรัฐเผด็จการแถบตะวันออกกลาง ในขณะที่ซาอุดีอาระเบียประกาศให้กลุ่มภราดรภาพมุสลิมเป็นกลุ่มก่อการร้าย ตุรกียังให้การสนับสนุนกาตาร์จากข้อพิพาททางการทูตในการคว่ำบาตรบาห์เรน อียิปต์ ซาอุดีอาระเบีย และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ด้วย

เมื่อสัปดาห์ก่อน อัยการของตุรกีได้แนะนำให้โอนย้ายคดีสังหารคาช็อกกีกลับไปยังซาอุดีอาระเบีย โดยอ้างเหตุผลว่าการพิจารณาคดีคาช็อกกีในตุรกียังคงไม่มีความแน่ชัด โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมของตุรกีเห็นพ้องกับข้อเสนอดังกล่าว โดยอ้างว่า ตุรกีจะเริ่มการพิจารณาคดีใหม่อีกครั้ง หากผลการตัดสินของซาอุดีอาระเบียไม่เป็นที่พอใจของตุรกี โดยก่อนหน้านี้ ซาอุดีอาระเบียเคยมีการพิจารณาคดีกับจำเลยบางคนในชั้นตุลาการแบบปิดมาแล้ว แต่คดียังคงไม่มีความคืบหน้าใดๆ

กลุ่มนักสิทธิมนุษยชนได้ออกมาเห็นค้านกับการโอนคดีคาช็อกกีไปยังซาอุดีอาระเบีย โดยมีการชี้ว่าการสังหารคาช็อกกีเกิดขึ้นในดินแดนของตุรกีที่มีอำนาจอธิปไตยเป็นของตนเอง กลุ่มนักสิทธิมนุษยชนจึงไม่เห็นด้วยกับการส่งคดีดังกล่าวกลับไปยังซาอุดีอาระเบีย ทั้งๆ ที่ตุรกีทราบดีว่าเป็นการยื่นคดีดังกล่าวไปยังมือของผู้ที่มีส่วนรับผิดชอบต่อการตายของคาช็อกกี ประกอบกับการที่ทางการซาอุดีอาระบียไม่ได้ให้ความร่วมมือกับทางการตุรกีในการแสวงหาความยุติธรรมให้กับคาช็อกกีมาตั้งแต่ต้น

ที่มา:

https://apnews.com/article/business-saudi-arabia-middle-east-jamal-khashoggi-turkey-4fa560c0b454e92443417e76799b2725?fbclid=IwAR1y8RAm8bgf5QyUdaDTGN65WZXnBylFPxemEuYfIZbpR45ToI3-j0Fksbs

https://www.aljazeera.com/news/2022/4/7/turkey-suspends-trial-of-saudi-suspects-in-khashoggi-killing